'การเมือง–งบลงทุนล่าช้า' ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ส.อ.ท. หวังครม.ใหม่ฟื้นเศรษฐกิจ

“การเมืองไร้เสถียรภาพ–งบลงทุนล่าช้า ฉุดเชื่อมั่นอุตอุตสาหกรรมสะดุด "ส.อ.ท." เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. 2568 อยู่ที่ 86.4 ลดลงจาก 86.6 ในเดือนก.ค. สะท้อนความไม่มั่นใจของผู้ประกอบการต่อสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจ หวังรัฐบาลชุดใหม่ เดินหน้ากำหนดทิศทางเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปี 68
นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วยนางสาวบัญชุสา พุทธพรมงคล กรรมการและรองประธานสายงานเศรษฐกิจและวิชาการ ส.อ.ท. แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม 2568 พบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 86.4 ลดลงเล็กน้อยจาก 86.6 ในเดือนก่อนหน้า
ปัจจัยกดดันหลักมาจาก ความไม่แน่นอนทางการเมือง ภายหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง รวมถึง การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐล่าช้า ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 โดยเฉพาะในกระทรวงคมนาคมและมหาดไทยที่ยังเหลือวงเงินจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจาก ความไม่ชัดเจนด้านภาษีสหรัฐ ทั้งเรื่อง Regional Value Content (RVC) และมาตรการ Reciprocal Tariff ตลอดจนปัญหาการปิดด่านการค้าไทย–กัมพูชา ที่คาดสร้างความเสียหายกว่า 14,000 ล้านบาท
ด้าน ปัจจัยภายนอก อาทิ น้ำท่วมจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ที่กระทบการเกษตรในภาคเหนือ และการขาดแคลนแรงงานจากแรงงานกัมพูชาที่ทยอยกลับประเทศ ล้วนซ้ำเติมบรรยากาศการลงทุน
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาช่วยประคับประคอง ได้แก่ การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.50% การอนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 18,500 ล้านบาท รวมถึงยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากแรงหนุนของงาน BIG Motor Sale 2025
การสำรวจผู้ประกอบการ 1,350 รายใน 47 กลุ่มอุตสาหกรรม พบว่า ปัจจัยกังวลหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจในประเทศ (72.6%) นโยบายภาครัฐ (60.4%) และอัตราแลกเปลี่ยน (45.7%) ขณะที่ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและราคาพลังงานปรับลดลง
สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 88.9 ลดลงจาก 89.2 เนื่องจากผู้ประกอบการยังรอความชัดเจนจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาภาษีกับสหรัฐฯ การเปิดด่านการค้า และมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ส.อ.ท. เสนอภาครัฐเร่งสรุปเงื่อนไขภาษี RVC และ Reciprocal Tariff เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2568 และเตรียมงบปี 2569 ออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดน รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายเพื่อหนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
"หากรัฐบาลใหม่เดินหน้านโยบายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการปรับลดค่าไฟฟ้า จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม และผลักดันดัชนีความเชื่อมั่นให้ฟื้นตัวได้ในระยะต่อไป"







