ราคาน้ำมันดิบทรงตัว จับตาการค้ารัสเซีย ภาวะอุปทานล้นตลาด

บลูมเบิร์ก รายงานราคาน้ำมันดิบวันนี้ (15 ก.ย. 68) แทบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนกำลังพิจารณามาตรการควบคุมการนำเข้าน้ำมันของรัสเซีย เทียบกับการคาดการณ์ว่าจะมีน้ำมันล้นตลาด เกินความต้องการใช้ในช่วงปลายปี

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายใกล้ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) อยู่ต่ำกว่า 63 ดอลลาร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ย้ำข้อเรียกร้องที่ว่ายุโรปต้องหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขากล่าวว่าเขาพร้อมที่จะเดินหน้ามาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่ออุปทานน้ำมันดิบจากรัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกโอเปกพลัส หากประเทศสมาชิกนาโตดำเนินการเช่นเดียวกัน

แม้ว่าประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ได้ลดหรือหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซียแล้ว แต่สมาชิกหลายประเทศขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) รวมถึงฮังการีและตุรกี ยังคงซื้อน้ำมันรัสเซีย แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นของทรัมป์ที่มีต่อพันธมิตรนี้เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ เตรียมเรียกร้องให้พันธมิตรในกลุ่มจี-7 (G-7) เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนและอินเดียสูงถึง 100% สำหรับการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่น้อยกว่า 5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเกือบทั้งเดือนที่ผ่านมา โดยราคาถูกกระทบจากแรงกดดันที่ขัดแย้งกันระหว่างความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และปัจจัยพื้นฐานที่เป็นขาลง ซึ่งทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ลดสถานะการถือครองน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในทิศทางขาขึ้นลงสู่ระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ 

ผู้ค้ากำลังติดตามการพัฒนาในตะวันออกกลางหลังจากการโจมตีของอิสราเอลในกาตาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงการโจมตีโดยโดรนของยูเครนที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของรัสเซีย 

อัปเดตราคาเช้านี้

น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) สำหรับส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 66.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 7:26 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์

น้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) สำหรับส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 62.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล