WHA จับตารัฐบาลใหม่พิสูจน์ฝีมือ 4 เดือน ชี้ชะตาเศรษฐกิจปี 69 

WHA จับตารัฐบาลใหม่พิสูจน์ฝีมือ 4 เดือน ชี้ชะตาเศรษฐกิจปี 69 

WHA Group ชี้รัฐบาลใหม่ 'มืออาชีพ' พร้อมขับเคลื่อนนโยบาย เร่งพิสูจน์ฝีมือ 4 เดือน ชี้ชะตาเศรษฐกิจปี 2569 แนะ 'ดึงลงทุน-ตั้งไฮเปอร์สเกลดาต้าเซนเตอร์'

ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง การก้าวขึ้นมาของรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" จึงเป็นความหวังสำคัญของภาคธุรกิจ และเอกชนไทย 

นโยบาย และมาตรการต่างๆ ที่กำลังจะประกาศใช้ ได้รับการคาดหวังว่าจะเข้ามาช่วยปลดล็อกข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ และเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจในประเทศ

การจับตาในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การมองว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาที่สั่งสมมาได้หรือไม่ แต่เป็นการเฝ้ารอว่านโยบายเหล่านี้จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และเปลี่ยน "ความท้าทาย" ให้เป็น "โอกาส" ในการยกระดับเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group กล่าวว่า แม้ครึ่งปีแรกเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่บริษัทสามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาส สร้างคุณค่าให้แก่นักลงทุน ลูกค้า และเศรษฐกิจไทย ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการธุรกิจ และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาโซลูชันครบวงจร เพื่อตอบโจทย์และดึงดูดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

สำหรับหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่มาจากคนนอกนั้น ส่วนตัวมองว่าโอเคเลย ได้รับการตอบรับจากต่างชาติ และมีความมั่นใจว่าแต่ละท่านมืออาชีพ อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พลังงาน และพาณิชย์ ที่เปิดโอกาสคนมีฝีมือ จริงๆ ที่ต้องการความเข้มแข็ง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเสนอสิ่งแรกคือ การเคลื่อนย้ายการลงทุน โดยเฉพาะนโยบายภาษีต้องต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจไทยได้ประโยชน์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เมื่อต่างประเทศเข้ามาจะดึงซัพพลายมาด้วย กลายเป็นจะได้คู่แข่งมากกว่าคู่ค้า ผู้นำจะต้องวางแผนให้ดี เพื่อให้เศรษฐกิจที่เหลือดีขึ้น ด้วยนโยบายของนายกฯ ที่ว่า “ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามลา” จึงเชื่อว่า ทุกคนที่มาจะสร้างเรื่องที่ดี แม้จะในระยะสั้น และส่งต่อไปสู่ระยะยาว จะเป็นบรรทัดฐานข้างหน้าว่าไทยมีความพร้อมมากมายในการจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

“ใน 4 เดือนของรัฐบาลนั้น จริงๆ อาจจะใช้เวลา 7-8 เดือน ดังนั้น จะต่อยอดการลงทุนอย่างไร มองว่าปีนี้จะสานต่ออย่างไร เช่น การดึงงบประมาณบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่างไร เพราะช่วงนี่สำคัญ โดยเฉพาะจากจีน”

WHA จับตารัฐบาลใหม่พิสูจน์ฝีมือ 4 เดือน ชี้ชะตาเศรษฐกิจปี 69 

รัฐบาลใหม่พิสูจน์ฝีมือก่อนชี้ชะตาเศรษฐกิจปี 69

ทั้งนี้ ทิศทางเศรษฐกิจปีหน้าจะเป็นอย่างไรนั้น อาจจะต้องดูการบริหารงานของรัฐบาลที่เข้ามาว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร และนโยบายเรื่องค่าเงิน ภาคการท่องเที่ยว และการส่งออก ดังนั้น ครึ่งปีหลังจะพิสูจน์ฝีมือได้ว่าจะดีหรือแย่กว่าปีนี้ อีกทั้ง นักลงทุนเชื่อมั่นว่าผู้นำประเทศมีการเคารพการตัดสินศาล ฝ่ายค้านโหวตให้เพื่อให้เดินหน้านโยบายรวมถึงการดึงคนนอกเข้ามาช่วยงาน ครม.

 

นอกจากนี้ แต่สิ่งที่ต้องจับตา และน่าสนใจ คือ การขนส่งแบบทรานส์ชิปเมนต์ (Transshipment) 40% จะต้องมีโลโคคอลเทนต์มาเพิ่มสัดส่วนด้วย จะหมายถึงโอกาสที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น การนำเข้าสินค้าจากจีนที่ขณะนี้โตมากขึ้น ก็ยิ่งจะเกิดปัญหาในเรื่องนี้ เพราะประเทศไทยจะไม่ได้อะไร และกลายเป็นแข่งขันกับใครไม่ได้ โอกาสผู้ประกอบการไทยจะสู้ไม่ได้ แต่กระแสการเคลื่อนย้ายการลงทุนจะมาในไทย เพราะบริษัทสหรัฐในจีน ย้ายมาอาเซียน จากตัวเลข FDI จากจีนต่ำสุดใน 3 ทศวรรษ

"ทุกอย่างต้องรีบ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และพลังงานสะอาดที่โจทย์ต้องเพิ่มขึ้น จากตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท โดยการลงทุน FDI ส่วนมากเป็นกลุ่มดิจิทัล และดาต้าเซนเตอร์ ส่วนหนึ่งเกิดจากภาษีสหรัฐทำให้เพิ่มขึ้น"

 

WHA จับตารัฐบาลใหม่พิสูจน์ฝีมือ 4 เดือน ชี้ชะตาเศรษฐกิจปี 69 

ไทยต้องเป็นไฮเปอร์สเกลดาต้าเซนเตอร์

ทั้งนี้ ก่อนจะดึงดาต้าเซนเตอร์มา มีคนบอกว่าค่าไฟไทยแพง ดังนั้น ก็ควรเทียบกับสิงคโปร์ เพราะเราแพงกว่าคือ เวียดนาม หรือมาเลเซีย ถ้าได้กลุ่มนี้มาใช้ไฟฟ้า คือธุรกิจขนาดใหญ่จะใช้ไฟตลอด 24 ชั่วโมง และต้องการใช้ไฟสะอาด บางบริษัทต้องการลงทุนโรงไฟฟ้าเองด้วยซ้ำ WHA ศึกษาตั้งแต่ปี 2012 เสนอให้กระทรวงต่างๆ ไม่ต้องสร้างดาต้าเซนเตอร์เอง สร้างไว้ก็เป็นอนุสาวรีย์ และควรให้เอกชนสร้างให้ 

และเมื่อดาต้าเซนเตอร์อยู่ต่างประเทศหมด การส่งข้อมูลค่าความหน่วงต้นทุนจะสูงมาก คือ เรื่องที่ต้องเจอ อีกทั้ง ไทยใช้แอปพลิเคชันติ๊กต็อกติดท็อปของโลก กลุ่มนี้อยู่ในดาต้าเซนเตอร์หมด ซึ่งเวียดนามก็อยากได้ดาต้าเซนเตอร์ แต่โครงสร้างพื้นฐานไม่รองรับ เราต้องเป็น "ไฮเปอร์สเกลดาต้าเซนเตอร์" ดังนั้น บริษัท จึงตั้งนิคมฯ สระบุรี อยุธยา ใกล้แหล่งน้ำรับการเติบโต

“ทุกปัญหาที่สะสมทั่วโลก เรายังมีความหวังในทุกเรื่องที่เข้ามา ในขณะที่หลายคนหมดหวัง เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยแข็งแกร่ง และยั่งยืนกว่าเดิม เราไปที่ไหนต้องสร้างความเจริญ ประชาชนต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อนาคตประเทศไทยยังเป็นส่วนหนึ่งที่มีความหวัง เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการดึงการลงทุนเข้ามาในประเทศ สิ่งที่จะช่วยประเทศระยะยาวจะดีกว่า”

WHA จับตารัฐบาลใหม่พิสูจน์ฝีมือ 4 เดือน ชี้ชะตาเศรษฐกิจปี 69 

ทุนจีนปรับตัวแปลงสัญชาติรับภาษีทรัมป์ 

น.ส.จรีพร ตอบคำถามที่ว่า การที่มีลูกค้าจีนเยอะจะถูกจับตาจากสหรัฐที่จะพิจารณาเจ้าของเป็นใครหรือไม่นั้นว่า ผู้ประกอบการจีนทราบดี คนจีนได้สัญชาติอื่นไปแล้ว เมื่อมาลงทุนก็ไม่รู้ว่าใคร ส่วนบริษัทจีนขนาดใหญ่เริ่มมีการหารพาร์ตเนอร์ในการลงทุน สมัยก่อนนโยบายเมดอินไชน่า ที่กินรวบนั้น ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนมากขึ้น เป็นเรื่องดีที่ไทยหรือจีนจะสร้างการเติบโตร่วมกัน

เมื่อถามว่า อยากเสนอ BOI ให้เดินหน้าอะไรหรือสนับสนุนอะไรหรือไม่ น.ส.จรีพร กล่าวว่า BOI ทำมาดีมาก และอยากให้ทำต่อเนื่องโดยเฉพาะดาต้าเซนเตอร์ อยากให้เพิ่มอินโนเวชันฟันด์มากขึ้น เพื่อดึงคนมา เราไปดิจิทัล ดาต้าเซนเตอร์มา ภาษี Income Tax ถูกกว่าที่อื่นหรือไม่ เราสร้างคนไม่ทันก็เป็นสิ่งสำคัญ

WHA จับตารัฐบาลใหม่พิสูจน์ฝีมือ 4 เดือน ชี้ชะตาเศรษฐกิจปี 69 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์