'วรภัค' ยันไม่เกี่ยวข้อง BIC Group – รอป.ป.ช.ไขความจริงคดีเอิร์ธ

วรภัค ธันยาวงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย และอดีตประธานคณะที่ปรึกษารมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีถูกนำชื่อไปโยงกับกลุ่มธุรกิจ BIC Group ในกัมพูชา
KEY
POINTS
- วรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช.คลังโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีถูกนำชื่อไปโยงกับกลุ่มธุรกิจ BIC Group ในกัมพูชา
- ยืนยันไม่เคยมีตำแหน่งหรือได้รับผลประโยชน์ใดๆในกลุ่ม
- พร้อมระบุกรณี ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาคดีเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ข้อเท็จจริงใกล้เปิดเผย
- พร้อมตั้งคำถามถึงสาเหตุการล้มละลายของบริษัท ทั้งที่งบการเงินและการชำระหนี้เป็นปกติ
วันนี้ (10 ก.ย.)นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย และอดีตประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Vorapak Tanyawong กรณีถูกนำชื่อไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจ BIC Group ในกัมพูชา
ช่วงนี้มีคนบางกลุ่มพยายามเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง โดยพยายามโยงชื่อผมไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจ BIC Group ในกัมพูชา มีการกล่าวหาว่าผมเป็นกรรมการบริหารของกลุ่มนี้ เพื่อนำชื่อเสียงผมไปพัวพันกับผลประโยชน์ประเทศกัมพูชา ซึ่งผมขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง
“ ผม ไม่เคย ดำรงตำแหน่งกรรมการ กรรมการบริหาร หรือมีตำแหน่งอื่นใดใน BIC Group
ผม ไม่เคย ได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์ใด ๆ จากกลุ่มนี้”
ความจริงคือ ผมเคยพบและพูดคุยกับ Mr. Yim Leak ประธานของ BIC Bank เมื่อหลายปีก่อน เขาเป็นบุตรชายของรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและมีภรรยาเป็นชาวไทย การพูดคุยเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องธุรกิจธนาคารทั่วไป เค้ามาขอคำปรึกษาคำแนะนำเกี่ยวกับกิจการธนาคาร ไม่ใช่การทำงานอย่างเป็นกิจลักษณะ และหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้พบหรือมีการติดต่อกับเขามานานหลายปีแล้ว แล้วเท่าที่ผมได้พบปะกับ Mr. Yim Leak ผมก็คิดว่าเค้าเป็นคนหนุ่มที่มีความตั้งใจสูงในการที่จะสร้างธนาคารดีดีขึ้นมาซักธนาคารหนึ่งสำหรับประชาชนของประเทศกัมพูชา
หลังจากที่ผมครบวาระจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เมื่อปลายปี 2559 ผมได้รับเกียรติจากบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company เชิญไปบรรยายและให้คำแนะนำกับผู้บริหารธนาคารในหลายประเทศ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า และจีน เนื่องจากผมมีประสบการณ์ทำงานในวงการธนาคารเกือบ 30 ปี โดยเฉพาะเรื่อง การปฏิรูปธนาคาร (Banking Transformation)
รูปด้านล่างนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งจากกิจกรรมที่ผมได้รับเชิญไปบรรยายและทำแผนยุทธศาสตร์ร่วมกับผู้บริหารธนาคารต่าง ๆ ในภูมิภาค ในช่วงแปดปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนชัดเจนว่าบทบาทของผมคือการแบ่งปันประสบการณ์เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมธนาคารโดยรวม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ BIC Group เป็นพิเศษ แต่อย่างใด
ผมขอเรียนให้ทราบตรงนี้เพื่อไม่ให้สังคมเข้าใจผิด และขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณกับข่าวลือหรือข้อมูลเท็จที่มีเจตนาไม่สุจริตครับ
ต่อมา นายวรภัค ได้โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีถูกคณะกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา กรณีบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) ใช้เอกสารเท็จเบิกเงินสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทย เพื่อชำระค่าสินค้า (ถ่านหิน) ที่นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย
ระบุว่า เคสเอิร์ธที่ผมถูก ป.ป.ช แจ้งกล่าวหาเมื่อสองปีที่แล้ว ทั้งทั้งที่ธนาคารกรุงไทยสอบสวนแล้วว่าผมไม่ได้กระทำผิดใดใด
ข้อเท็จจริงกำลังใกล้เปิดเผยแล้วครับ
ลองดูตัวเลขของบริษัทนี้ไปก่อนพลางๆ ก่อนว่า ตัวเลขแบบนี้กลายเป็นบริษัทล้มละลายได้อย่างไร ทั้งทั้งที่งบการเงินก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่เคยถูก ก.ล.ต ร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องงบการเงิน เป็นลูกหนี้ที่ชำระเงินต้นดอกเบี้ยเป็นปกติมาตลอดไม่เคยกระท่อนกระแท่นอยู่ดีดีกลายเป็นบริษัทล้มละลายแบบฉับพลัน







