หอการค้าไทยหนุนรัฐบาล–กองทัพ ผ่อนปรนเปิดด่านชายแดน ลดผลกระทบเศรษฐกิจ

หอการค้าไทยหนุนรัฐบาล–กองทัพ ผ่อนปรนเปิดด่านชายแดน ลดผลกระทบเศรษฐกิจ

หอการค้าไทย หนุน มติ GBC ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ แบ่ง 3 โซนพื้นที่ชายแดนตามความตึงเครียดของสถานการณ์ เพื่อผ่อนปรนเปิดด่านชายแดนเพื่อลดผลกระทบทางกระทบธุรกิจและประชาชน ประเดิมเปิดด่านชายแดนจันทบุรี-ตราด

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า  การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชาที่เห็นพ้องในการพิจารณาผ่อนปรนให้มีการเปิดด่านบางประเภทและบางจุด ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจ การค้าชายแดน และการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับมาว่าจะมีวิธีที่จะบริหารจัดการแบ่งโซนพื้นที่ตามความตึงเครียดของสถานการณ์ตามลำดับ

โซนที่หนึ่ง มีความตึงเครียดสูงสูงคือพื้นที่กองทัพภาค 2 ประกอบไปด้วยอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์บุรีรัมย์เป็น

โซนที่สอง คือ สระแก้ว พื้นที่ความรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่1

โซนที่สาม คือ จันทบุรีและตราดมีความตึงเครียดน้อยกว่าจุดอื่น

การแบ่งโซนดังกล่าว นำมาซึ่งแนวความคิดในการผ่อนผัน ซึ่งจะดูที่สถานการณ์ในระดับความตึงเครียดและจากที่ผู้ประกอบการขอให้ผ่อนปรนบ้างจึงได้ดำเนินการในโซนที่ 3 ก่อน และมอบหมายให้กองกำลัง จันทบุรี-ตราด ไปพิจารณาดำเนินการ เพราะเป็นมาตรการทางด้านความมั่นคง โดยให้ประสานงานในพื้นที่กับ กรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสนับสนุนข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางที่นำมาเจรจากัน

ดร.พจน์ กล่าวว่า หอการค้าไทยขอขอบคุณ รัฐบาลไทย และกระทรวงกลาโหมโดย พลเอกณัฐพล นาคพานิชย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย และ ทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันผลักดันและขับเคลื่อนการเจรจาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม อันจะช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ตลอดจนช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้อย สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง