ผู้ส่งออกข้าว จี้ ธปท.เร่งแก้บาทเข็ง กระทบความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกข้าวไทย

ผู้ส่งออกข้าว เผย เงินบาทตั้งแต่ต้นปี 68 แข็งขึ้น 7 % ขณะที่คู่แข่งทั้งอินเดีย เวียดนาม และปากีสถาน อ่อนค่า ส่งผลไทยส่งออกข้าวแข่งได้ยาก ส่วนต่างห่างมากกว่า 10 % จี้ ธปท.ดูแลเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ไม่ให้ผันผวนรุนแรง อยู่ในระดับที่แข่งขันได้
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ มีความกังวลอย่างยิ่ง ต่อสถานการณ์การแข็งค่าของค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก และรายได้ของเกษตรกรไทยนับล้านครัวเรือน
โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 7% จาก 34.33 มาเป็น 31.68 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ประเทศผู้ส่งออกข้าวรายสำคัญต่างมีค่าเงินอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ทำให้ความแตกต่างด้านอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างไทยกับคู่แข่งสูงมากถึง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ เช่น อินเดีย รูปีอินเดีย (INR) อ่อนค่าจาก 85.57 มาเป็น 88.19 รูปีต่อดอลลาร์ คิดเป็น 3.1% ดองเวียดนาม (VND) อ่อนค่าจาก 26,269 เป็น26,396 ดองต่อดอลลาร์ คิดเป็น 3.6% และรูปีปากีสถาน (PKR) อ่อนค่าจาก 283.69 เป็น 283.53 รูปีต่อดอลลาร์ คิดเป็น 1.8%
โดยส่วนต่างค่าเงินเมื่อเทียบกับไทย อินเดีย 10.8% เวียดนาม 11.3% ปากีสถาน 9.5%
ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน หากผู้ส่งออกไทย อินเดีย เวียดนาม และปากีสถาน ต่างขายข้าวขาว 5% ในราคา FOB 350 ดอลลาร์ต่อตัน เท่ากัน แต่ประเทศคู่แข่งได้รับเงินมากกว่าไทยถึง 1,000–1,250 บาทต่อตัน ซึ่งหมายความว่า ชาวนาไทยได้รับรายได้น้อยกว่าชาวนาประเทศคู่แข่งทันทีจากผลของค่าเงินบาทแข็งไม่ใช่เพราะราคาข้าวต่ำกว่า แต่เป็นเพราะความเสียเปรียบด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยตรงเมื่อคำสั่งซื้อลดลง ผลกระทบจะตกสู่เกษตรกรโดยตรง
โดยเฉพาะในช่วงนาปีปลายปีนี้ที่ผลผลิตกำลังจะออก หากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศชะลอตัว จะยิ่งซ้ำเติมให้ราคาข้าวในประเทศลดต่ำลงอย่างรุนแรง
ทั้งนี้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย เร่งดำเนินมาตรการอย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรม เพื่อดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท ไม่เพียงแต่ป้องกันไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไปเท่านั้น แต่ยังควรดำเนินการให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงสู่ระดับที่สามารถแข่งขันได้ และคงความมั่นคงไม่ให้เกิดความผันผวนรุนแรง
“สถานการณ์นี้ถือเป็น วาระเร่งด่วน หากไม่มีการแก้ไขทันท่วงที ค่าเงินบาทที่แข็งและผันผวน จะเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก และสร้างผลกระทบเชิงลบต่อรายได้ของเกษตรกรไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”ร.ต.ท.เจริญ กล่าว







