นักวิชาการ เปิด 3 ฉากทัศน์ภาษีทรัมป์ ชี้ สินค้าไทย ยังถูกเก็บภาษี

“อัทธ์ พิศาลวานิช”เปิด 3 ฉากทัศน์ ภาษีทรัมป์หลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น “ทรัมป์ ไม่มีอำนาจประกาศเก็บภาษีศุลกากร คาดทรัมป์ อาจงัดแผน 2 หากศาลฎีกาสหรัฐยืนตามศาลอุทธรณ์ ขณะที่ไทยยังต้องถูกเก็บภาษีไม่ว่าผลตัดสินออกมาอย่างไร
นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2568 ที่ผ่านมาศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนยันตามศาลชั้นต้น ว่า รัฐบาลทรัมป์ไม่มีอำนาจตาม IEEPA ไม่ให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกเก็บภาษีศุลกากร โดยอำนาจการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นของสภาคองเกรส ซึ่งรัฐบาลทรัมป์อุทธรณ์ศาลฎีกาเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2568 ทำให้ขณะนี้ภาษีทรัมป์จึงมีความไม่แน่นอนสูงที่ส่งผลต่อทั้งเศรษฐกิจสหรัฐ ไทย และโลก
หากศาลฎีกาสหรัฐ ตัดสินว่าทรัมป์ไม่มีอำนาจตามศาลชั้นต้น และอุทธรณ์ ดังกล่าว ประเทศต่างๆ ที่รัฐบาลสหรัฐ เก็บภาษีนำเข้าจะถูกยกเลิกทันที แต่หากศาลฎีกาตัดสินว่า รัฐบาลทรัมป์มีอำนาจภาษีทรัมป์ก็ยังเก็บเหมือนเดิม ต้องลุ้นผลคำตัดสินใจของศาลฎีกาอย่างเร็วปลายปี 2025 หรืออย่างช้ากลางปี 2026 อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังมีเครื่องมือทางภาษีอื่นที่สามารถนำมาใช้แทนอีก
นายอัทธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันศาลฎีกาสหรัฐ ตัดสินไทย และประเทศคู่ค้าสหรัฐ ที่ถูกเก็บภาษีนำเข้า ยังต้องจ่ายภาษีนำเข้าให้สหรัฐ เหมือนเดิม เพราะทรัมป์ขอให้ศาลฎีกาคงสถานะการเก็บภาษีนำเข้าออกไป ทำให้กรอบระยะเวลาการเก็บภาษีทรัมป์เบื้องต้น มากกว่า 8 เดือน นับจากเดือนก.ย.2568 จนถึงวันตัดสินของศาลฎีกา
อย่างไรก็ตามมองว่าหากศาลฎีกาสหรัฐ ยกเลิก ภาษีทรัมป์ รัฐบาลสหรัฐ จะต้องจ่ายเงินคืนแก่ผู้ประกอบการนำเข้าของสหรัฐ 700 พันล้านดอลลาร์ - 1 ล้านล้านดอลลาร์ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในสหรัฐ และต่างประเทศ เพราะรัฐบาลต้องกู้ยืมเพิ่มเพื่อมาจ่ายเงินก้อนดังกล่าว
โดยการออกพันธบัตร ทำให้หนี้สาธารณะสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นอีก 3% จาก 37 ล้านล้านดอลลาร์ เป็น 38 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลดอลลาร์อ่อนค่า ทิศทางดอกเบี้ยจะปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
นายอัทธ์ กล่าวว่า กฎหมาย Smoot-Hawley (1930) หรือ Tariff Act จะถูกนำมาใช้แทนกฎหมาย IEEPA ทรัมป์ ผ่านทาง ม.338 โดย ปธน.ทรัมป์มีอำนาจในการเก็บภาษีตอบโต้สูงสุด 50% ต่อสินค้านำเข้าจากประเทศนั้นๆ ไม่มีข้อจำกัดจำนวนสินค้า เป็นระยะเวลา 5 เดือน
หากนับกรอบระยะเวลา แสดงว่า สินค้าไทยยังถูกเก็บ อย่างน้อย 1 ปี หลังจากนี้ ส่วนดีลการค้าไทยกับสหรัฐ ยังอยู่ การเปิดตลาด 0% ให้สินค้าสหรัฐ ยังคงอยู่ต่อไป เพราะไม่เกี่ยวกับผลการตัดสินของศาลฎีกาที่ยกเลิกอำนาจทรัมป์
สำหรับฉากทัศน์ภาษีทรัมป์ จากผลการตัดสินของศาลฎีกาสหรัฐ ตามกฎหมาย IEEPA คือ
1.ประเด็น ทรัมป์มีอำนาจ (เก็บภาษีต่อได้) ทรัมป์ไม่มีอำนาจ (ยกเลิกภาษี)
2.ภาษีทรัมป์ เก็บภาษีตอบโต้ ยกเลิกภาษีตอบโต้
3.ดีลการค้า ยังอยู่ เครื่องมือทางภาษีตามกฎหมายอื่น ม.232 , 201 และ 301 ม.338 ตาม Smoot-Hawley (1930) หรือ Tariff Act และกฎหมายอื่นๆ
ดังนั้นไม่ว่าศาลฎีกาสหรัฐ จะตัดสินออกมาอย่างไรก็ตาม สินค้าส่งออกไทยยังต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงการค้าโลกต่อไป ภายใต้ภาษีทรัมป์ เพราะยังคงถูกเก็บภาษีทรัมป์ต่อไป ไทยเร่งปรับตัวเพื่อเชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิตของกลุ่ม BRICS และเร่งทำ FTA กับตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







