เบื้องลึก 'อนุทิน' เลือก 'เอกนิติ' นั่ง รมว.คลัง ดันนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน

เบื้องลึก 'อนุทิน' เลือก 'เอกนิติ' นั่ง รมว.คลัง ดันนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน

เปิดเบื้องลึก เหตุผล "อนุทิน" ทาบทาม "เอกนิติ" นั่ง รมว.คลัง เหมาะสมเคลื่อนนโยบายการคลังเร่งด่วน เจ้าตัวตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต มอบหมายงานเริ่มคิดนโยบายกระตุ้นศก.

ทุกครั้งที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือการปรับคณะรัฐมนตรีของทุกรัฐบาล ตำแหน่งหนึ่งที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษก็คือตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” ที่ถือเป็นตำแหน่งสำคัญของทุกรัฐบาลที่จะมีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะนโยบายการคลังเพื่อทำให้เป้าหมายในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของรัฐบาลประสบผลสำเร็จ

ในการตั้งรัฐบาลล่าสุดที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย ได้มีการเตรียมความพร้อมในการฟอร์ม “ครม. อนุทิน1” มาล่วงหน้าก่อนที่จะมีวันโหวตนายกรัฐมนตรีในสภา โดยเฉพาะในตำแหน่งในด้านเศรษฐกิจ และต่างประเทศที่นายอนุทินมองว่าต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยมีการกำหนดคุณสมบัติว่าต้องได้คนที่เป็นมืออาชีพ ได้รับความยอมรับสูง และสามารถทำงานได้ทันทีเพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของรัฐบาลที่จะต้องยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังจากมีการประกาศนโยบายต่อสภา

ในส่วนของตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทยระบุว่าในเบื้องต้นพรรคได้มีการทาบทามบุคคลที่ได้รับการยอมรับสูงทั้งใน และต่างประเทศในแวดวงเศรษฐศาสตร์ และการเงินโดยได้มีการติดต่อไปยังนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะหมดวาระในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยติดต่อผ่านบุคคลที่ทำงานร่วมกับนายเศรษฐพุฒิมาก่อน อย่างไรก็ตามนายเศรษฐพุฒิได้ตอบปฏิเสธ

ขณะที่อีกชื่อหนึ่งที่ได้มีการทาบทามเช่นกันคือนายวิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการ ธปท.อีกคนหนึ่งแต่ก็ได้รับการปฏิเสธเช่นกัน

ในระหว่างนี้ได้มีการทาบทามไปยังนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลังเคยผ่านงานมาหลายกรม และมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับภาคเอกชนในหลายองค์กรที่อยู่ในบริษัทจดทะเบียน ประกอบกับหากจะทำนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน ผ่านนโยบายทางการคลัง นายเอกนิตินั้นมีความเข้าใจในกลไกของเครื่องมือทางการคลังเป็นอย่างดี สามารถประสานงานร่วมกับข้าราชการในกระทรวงการคลังได้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนงานเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นอย่างมากเนื่องจากระยะเวลาในการทำงานมีไม่มากนัก

โดยภายหลังจากที่ได้มีการทาบทามแล้วนายเอกนิติได้ขอใช้เวลาในการคิดอยู่ 2-3 วันก่อนที่จะตอบตกลงมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในที่สุด

นายอนุทิน กล่าวถึงการทาบทามนายเอกนิติมาร่วม ครม.ในรัฐบาล “อนุทิน1”  ว่า “อธิบดีเอกนิติ” นั้นมีอายุราชการเหลืออีกถึง 6 ปี มีความรู้ความสามารถ มีอนาคตในทางราชการ สามารถก้าวหน้าไปได้มากกว่านี้ แต่ก็เสียสละ ที่จะเข้ามาทำงาน เราเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องประเทศชาติ เรื่องพี่น้องประชาชนมีความสำคัญ โดยคุณสมบัติความรู้ความสามารถขณะนี้ ต่อให้พ้นวาระนี้ไป คงจะมีเส้นทางในอาชีพของท่านได้มากมาย

“ท่านขอเวลาคิด 2-3 คืน ก็ตัดสินใจมาร่วมทำงาน ต้องถือว่าเป็นสิ่งที่ท่านตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต โดยมุ่งมั่นถึง ประเทศของเรา และพี่น้องประชาชน”

ในส่วนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นนายอนุทินได้ระบุว่าทั้งในระดับจุลภาคและมหภาคจะต้องมีแน่นอน โดยว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของรัฐบาล อยู่ในกระทรวงการคลังมาโดยตลอด มีประสบการณ์ การทำงาน ทั้งต่างประเทศและในประเทศ เป็นอธิบดีมาหลายกรม เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมสรรพสามิต และอธิบดีกรมธนารักษ์ มีความรู้ความสามารถ ที่จะประสานงานกับฝ่ายประจำ ทำงานต่อเนื่องได้อย่างไม่มีปัญหา

เช่นเดียวกับนโยบายคนละครึ่งโฉมใหม่นายอนุทินก็บอกว่าได้มอบหมายให้ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเร่งพิจารณา เมื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะได้ดำเนินการต่อไปเพราะเวลาเรามีน้อย มีไม่มาก

..ต้องจับตาดูว่าภายใต้ความคาดหวังทางเศรษฐกิจที่สังคมมีต่อรัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน และนโยบายเศรษฐกิจที่มีนายเอกนิติลูกหม้อกระทรวงการคลังเข้ามาขับเคลื่อน จะแก้ปัญหาระยะสั้น โดนใจประชาชนมากแค่ไหน

อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเวลาจะเป็นคำตอบว่าในตำแหน่งนี้นายอนุทิน “Put the right man on the right job” หรือไม่?