'ไฮสปีด 3 สนามบิน' ยังติดหล่ม 4 รัฐบาล เคลียร์ปมแก้สัญญาไม่จบ

'ไฮสปีด 3 สนามบิน' ยังติดหล่ม 4 รัฐบาล เคลียร์ปมแก้สัญญาไม่จบ

จับตา ครม.อนุทิน เคาะแนวทางแก้สัญญา “รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน” หลังติดหล่มมา 4 รัฐบาลไม่เดินหน้าตอกเสาเข็ม

KEY

POINTS

  • จับตา ครม.อนุทิน เคาะแนวทางแก้สัญญา "รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน" หลังติดหล่มมา 4 รัฐบาลไม่เดินหน้าตอกเสาเข็ม
  • ล่าสุดอัยการแย้งแบ่งจ่ายสิทธิบริหาร "แอร์พอร์ตลิงก์" ควรเร็วกว่า 7 งวด พร้อมเร่ง "ซีพี" วางแบงก์การันตี 1.6 แสนล้าน รับเงื่อนไข "สร้างไปจ่ายไป"

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ลงนามสัญญาร่วมลงทุนระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ที่มีเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ถือหุ้นใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2562 หลังชนะการประมูลและขอรับเงินร่วมลงทุนจากรัฐต่ำสุด 117,226 ล้านบาท

หลังจากนั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการเยียวยาผลกระทบจากโควิดที่ทำให้ผู้โดยสารแอร์พอร์ตเรลลิงก์ลดลง เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564 และทำให้บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด เข้าบริหารแอร์พอร์ตเรลลิงก์วันที่ 25 ต.ค.2564 โดยจ่ายค่าสิทธิบริหารงวดแรก 1,067 ล้านบาท จากที่สัญญากำหนดให้จ่ายงวดเดียว 10,671 ล้านบาท

พร้อมทั้งมีการเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และปัจจัยภายนอกอื่นๆ โดยมีการเจรจามายาวนานเกือบ 3 ปี และได้ข้อสรุปในรัฐบาล "แพทองธาร" แต่จนกระทั่งปัจจุบันการแก้ไขสัญญายังไม่ได้รับการอนุมัติ กินเวลาดำเนินการรวมมากว่า 6 ปี ยังไม่เริ่มตอกเสาเข็ม

โดยสถานะของการแก้ไขสัญญาร่วมทุนปัจจุบันทางอัยการสูงสุดได้ส่งความเห็นของการแก้ไขสัญญากลับมาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และอยู่ในขั้นตอนเจรจากับคู่สัญญา คือ บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ซึ่งหากตกลงได้ก็จะ "ต้องรอรัฐบาลใหม่" แต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน และจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ก่อนนำร่างสัญญาฉบับใหม่เข้า ครม.

สำหรับประเด็นแก้ไขสัญญาร่วมทุนนั้น อัยการสูงสุดมีหนังสือตอบกลับความเห็นการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งจากการพิจารณาความเห็นของอัยการ ส่วนใหญ่มากกว่า 95% เห็นด้วย และไม่ปรับแก้ไขร่างสัญญา มีเพียงอีก 5% ที่อัยการสูงสุดมีความเห็นเพิ่มเติมว่าหากแก้ไขจะทำให้รัฐได้ประโยชน์มากกว่า โดยประเด็นที่อัยการสูงสุดมีความเห็น มีสาระสำคัญอาทิ

การชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL)

ซึ่งแนวทางแก้ไขสัญญาได้กำหนดให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่าๆ กัน และต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญา ประเด็นนี้อัยการสูงสุดได้มีความเห็นจากเดิมที่แบ่งจ่าย 7 งวด เป็นแบ่งจ่ายให้เร็วขึ้นกว่าเดิม

การปรับวิธีการชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการที่ปรับเป็นรูปแบบ "สร้างไปจ่ายไป"

โดยทำให้รัฐต้องจ่ายค่าสนับสนุนงานโยธาเร็วขึ้น เป็นการจ่ายตามงวดงาน ตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างที่ รฟท. ตรวจรับ วงเงินรวมเป็น 125,932.54 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขกำหนดว่าเอกชนจะต้องวางหลักประกันเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้กระทบกรณีการทิ้งงาน

โดยประเด็นปรับวิธีการชำระเงินเป็นสร้างไปจ่ายไปนั้น ทางอัยการสูงสุดมีความเห็นให้เจรจากับเอกชนเพื่อวางหลักประกันควรเร็วขึ้นกว่าเดิม ที่กำหนดไว้ในร่างสัญญาที่แก้ไขว่า เอกชนยังไม่ต้องวางหลักประกันทันที ณ วันลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุน แต่นำหลักประกันดังกล่าวมาวางให้ รฟท.ภายใน 270 วันนับจากลงนามสัญญา หรือเมื่อต้องการเบิกรับเงินสนับสนุนงวดแรกต้องวางหลักประกันทันที

ทั้งนี้การแก้ไขสัญญาร่วมทุนในโครงการไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน เป็นหนึ่งในงานหินของทุกรัฐบาลที่จะตัดสินใจเดินหน้าอย่างไร ผ่านการพิจารณาถึง 4 รัฐบาล โครงการนี้ก็ยังยืดเยื้อมากว่า 6 ปี นับจากวันลงนามสัญญาร่วมทุนปี 2562 ปัจจุบันก็ยังไม่สามารถเริ่มตอกเสาเข็มสร้างโครงการได้ โดยมีไทม์ไลน์สำคัญ ประกอบด้วย

รัฐบาลประยุทธ์ 1

27 มี.ค.2561 ครม.เห็นชอบโครงการ

12 พ.ย.2561 รฟท.เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอ โดยมีเอกชนยื่น 2 กลุ่ม

22 ธ.ค.2561 ประกาศผลคัดเลือกเอกชน กลุ่มซีพีชนะการประมูล

รัฐบาลประยุทธ์ 2

24 ต.ค.2562 ลงนามสัญญา

19 ต.ค.2564 ครม.เห็นชอบแก้สัญญาเพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด

25 ต.ค.2564 กลุ่มซีพีเข้าบริหารแอร์พอร์ตเรลลิงก์

13 มิ.ย.2565 บีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุน

รัฐบาลเศรษฐา

22 ม.ค.2567 ครม.ต่อเวลาครั้งที่ 2 ส่งเอกสารออกบัตรส่งเสริมการลงทุน

22 พ.ค.2567 ครม.ต่อเวลาครั้งที่ 3 ส่งเอกสารออกบัตรส่งเสริมการลงทุน

รัฐบาลแพทองธาร

11 ต.ค.2567 กพอ. เห็นชอบแก้ไขสัญญาร่วมทุน 5 ประเด็นสำคัญ

8 ม.ค.2568 กพอ. เห็นชอบให้ดำเนินการแก้ไขสัญญาร่วมทุน

ทั้งนี้คงต้องจับตาดูรัฐบาล “อนุทิน” เป็นรัฐบาลชุดที่ 5 เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหา นำไปสู่การก่อสร้างโครงการไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน เพื่อเชื่อมต่อ 3 ท่าอากาศยานในเขตกรุงเทพมหานครและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานอู่ตะเภา ทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางระหว่างท่าอากาศยานเข้าสู่ เขตเมืองและเขตธุรกิจได้อย่างสะดวกรวดเร็ว