AMRO มองเศรษฐกิจไทยโตแผ่ว แนะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น

AMRO คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.2% และชะลอตัวเหลือ 1.9% ปีหน้า ชี้การบริโภคในประเทศแผ่ว แนะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น
รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนจาก ASEAN+3 Macroeconomic Research Office (AMRO) โดยมี Mr. Yasuto Watanabe ผู้อำนวยการ AMRO และ Mr. Dong He หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ได้เข้าพบผู้บริหาร สศค. เพื่อสรุปผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยประจำปี 2568 โดยรายงานผลการประเมิน AMRO ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัว 2.2% และชะลอตัวเหลือ 1.9% ในปี 2569
AMRO ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่มีแนวโน้มจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากปัจจัยการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นก่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และภาคเอกชนที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต เช่น การปรับยุทธศาสตร์การใช้จ่ายภาครัฐไปสู่การลงทุน และการขยายการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และดาต้าเซ็นเตอร์
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% ในปี 2568 และ 0.8% ในปี 2569 โดยมีปัจจัยด้านอุปทานเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก
ทั้งนี้ AMRO ได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย โดยประเมินว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในปัจจุบันยังคงเหมาะสม และสามารถพิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ หากอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ดี การใช้นโยบายการเงินควรต้องรักษาสมดุลระหว่างการบริหารจัดการความเปราะบางของหนี้ครัวเรือนในปัจจุบัน และการส่งเสริมการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับธุรกิจที่มีศักยภาพ
ขณะที่นโยบายการคลังควรดำเนินมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง และในระยะปานกลางควรลดการขาดดุลงบประมาณเพื่อรักษาความยั่งยืนทางการคลัง
นอกจากนี้ AMRO ยังเน้นย้ำว่า นโยบายเชิงโครงสร้าง มีบทบาทสำคัญในการเสริมศักยภาพการเติบโตในระยะยาว โดยควรเร่งปฏิรูปด้านนวัตกรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการขยายโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะแรงงาน ถ่ายทอดเทคโนโลยี และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก







