ธ.ก.ส. เคาะเริ่มโอนเงินไร่ละ 1,000 ช่วยเหลือชาวนา 1-4 ก.ย.นี้

ธ.ก.ส. พร้อมโอนเงินช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปรังและนาปี ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ ให้กับเกษตรกรกว่า 4.63 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ พร้อมออกมาตรการคู่ขนานรักษาเสถียรภาพราคาข้าวและเพิ่มสภาพคล่องให้กับเกษตรกร วงเงินรวมกว่า 50,000 ล้านบาท
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้รับมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2568 และคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2568 ให้ดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. เป็นประธานในที่ประชุม
โดย ธ.ก.ส. จะสนับสนุนเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร ในโครงการ “สนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568” และ “โครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69” ในอัตรา ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาท โดยจะเริ่มโอนเงินรอบแรกตั้งแต่วันที่ 1-4 ก.ย. 2568 ให้กับเกษตรกรผู้ได้รับประโยชน์กว่า 2.48 ล้านราย วงเงินรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ดังนี้
- 1 ก.ย.2568 โครงการนาปรัง ปี 2568 ทั่วประเทศ จำนวน 769,461 ราย วงเงินกว่า 6,280 ล้านบาท
- 2 ก.ย.2568 โครงการนาปี ภาคเหนือ จำนวน 286,831 ราย วงเงิน 2,459 ล้านบาท
- 3 ก.ย.2568 โครงการนาปี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 1,291,298 ราย วงเงิน 10,586 ล้านบาท
- 4 ก.ย.2568 โครงการนาปี ภาคอื่น ๆ จำนวน 137,478 ราย วงเงิน 1,254 ล้านบาท
ส่วนเกษตรกรที่เหลือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะทยอยส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อดำเนินการโอนเงินต่อไป เกษตรกรสามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงินได้ที่ https://govtransfer.baac.or.th หรือ Line Official: @baacfamily
นอกจากเงินช่วยเหลือ ธ.ก.ส. ยังจัดมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2568/69 กรอบวงเงินรวมกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย
1.สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี วงเงิน 35,000 ล้านบาท เพื่อป้องกันผลผลิตข้าวเปลือกล้นตลาด โดยรัฐบาลจะรับภาระชำระดอกเบี้ยแทนเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร นอกจากนี้ยังสนับสนุนค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้อีก 1,500 บาทต่อตัน ตั้งเป้ารองรับปริมาณข้าวเปลือกจากท้องตลาด 3 ล้านตัน
2.สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร วงเงิน 15,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้สถาบันเกษตรกรในการรวบรวมและแปรรูปผลผลิตให้มีมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันฯ ชำระดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลและ ธ.ก.ส. รับภาระแทน ตั้งเป้ารองรับปริมาณข้าวเปลือกรวม 4.5 ล้านตัน







