STeP หนุนผู้ประกอบการสร้าง Chiang Mai World Class Wellness City

"เชียงใหม่" เดินหน้าเมืองแห่งอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพระดับโลก ยกระดับผู้ประกอบการ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สร้างผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าเพิ่มแข่งขันสากล
อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) ร่วมกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าผลักดันจังหวัดเชียงใหม่สู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพระดับโลก ในโครงการเชียงใหม่เมืองแห่งอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพระดับโลก (Chiang Mai World Class Wellness City) เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการและชุมชนของเชียงใหม่สู่ธุรกิจสุขภาพระดับโลก
โดยมี รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย ผู้อำนวยการอุทยานฯ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการ พร้อมด้วย รศ.ดร.จุฬาลักษณ์ เขมาชีวะกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการอุทยานฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการ ร่วมทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้านการดำเนินกิจกรรมที่มุ่งครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ การยกระดับทักษะบุคลากรด้านสุขภาพและเวลเนส
รวมถึงการบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ การสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลผลิตทางการเกษตร และการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่ “เมืองสุขภาพ” ที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ความน่าสนใจของโครงการนี้ อยู่ที่การออกแบบกิจกรรมหลัก 3 ด้าน ที่แต่ละด้านมุ่งเสริมศักยภาพกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ได้แก่ กิจกรรมหลักที่ 1 บ่มเพาะและสร้างผู้ประกอบการใหม่ในอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพ (Health & Wellness Startup Creation) และกิจกรรมหลักที่ 3 ยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงในอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพ (Hight Value Health & Wellness Product)
สำหรับทั้ง 2 กิจกรรมนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการ เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และศักยภาพในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพที่มีมูลค่าเพิ่มและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล จุดมุ่งหมายสำคัญคือการเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบนิเวศธุรกิจสุขภาพของเชียงใหม่ เพิ่มโอกาสทางรายได้ และต่อยอดสู่การยกระดับภาพลักษณ์ของจังหวัดในฐานะ “เมืองแห่งอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพระดับโลก”
ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากกิจกรรมดังกล่าว คือการบ่มเพาะผู้ประกอบการใหม่ไม่น้อยกว่า 50 ราย พร้อมต่อยอดสู่การ
สร้างผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่มีมูลค่าสูงไม่น้อยกว่า 50 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
จากนั้นจึงต่อเนื่องด้วยกับกิจกรรมหลักที่ 2 พัฒนาทักษะการประกอบอาชีพสำหรับบุคลากรในอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพ (Health & Wellness Worker Up Skill) ซึ่งยกระดับศักยภาพบุคลากรในพื้นที่ให้พร้อมรับกับความต้องการของอุตสาหกรรมสุขภาพยุคใหม่ผ่านการอบรมทักษะอาชีพใหม่ 30 ชั่วโมง พร้อมศึกษาดูงานและสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ทั้งนี้ มีเป้าหมายพัฒนาบุคลากรไม่น้อยกว่า 500 ราย เพื่อเสริมความเข้มแข็งของระบบนิเวศธุรกิจสุขภาพและขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจสุขภาพระดับโลกอย่างยั่งยืน
รศ.ดร.จุฬาลักษณ์ เขมาชีวะกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการอุทยานฯ กล่าวถึงภาพรวมโครงการฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน STeP ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งการอบรมเสริมทักษะธุรกิจสุขภาพ การให้คำปรึกษาเชิงลึกจากนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ การสนับสนุนการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Prototype) กว่า 50 ชิ้น
ตลอดจนการสร้างเครือข่ายธุรกิจและการศึกษาดูงานจากสถานประกอบการสุขภาพชั้นนำ โดยมีเป้าหมายในการบ่มเพาะผู้ประกอบการ Health & Wellness รุ่นใหม่ และยกระดับผลผลิตเกษตรเชียงใหม่สู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพมูลค่าสูง
“โครงการนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากผู้ประกอบการหลากหลายสาขา ทั้งด้านเกษตรแปรรูป สมุนไพร เครื่องสำอาง อาหารเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงบริการด้าน Wellness มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 500 ราย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความต้องการจริงในการต่อยอดสู่ตลาดสุขภาพระดับประเทศ” รศ.ดร.จุฬาลักษณ์ กล่าว
สำหรับบทบาทของ STeP ถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนโครงการครั้งนี้ ด้วยการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาต่อยอดให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้ใช้จริงในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ตรงกับความต้องการตลาด การเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างมีมาตรฐาน ไปจนถึงการวางรากฐานด้านเครือข่ายที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับตลาดและหน่วยงานสนับสนุนได้เข้มแข็ง
ส่วนผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น คือ การที่ผู้ประกอบการและชุมชนของเชียงใหม่จะมีความเข้มแข็งและยืนหยัดท่ามกลางการแข่งขันในตลาดที่ท้าทาย ขณะที่ผลิตภัณฑ์สุขภาพจากผลผลิตทางการเกษตรจะได้รับการพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น สร้างทั้งรายได้และความภาคภูมิใจให้กับท้องถิ่น อีกทั้งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ในฐานะเมืองเวลเนสที่ครบวงจร เติบโตอย่างยั่งยืน และพร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจสุขภาพระดับโลกในอนาคต
“โครงการเชียงใหม่เมืองแห่งอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพระดับโลก จึงไม่เพียงเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับศักยภาพของผู้คนและชุมชน”







