“ไทย”คว้าโควตาน้ำตาลทรายเข้าสหรัฐ ปี69ปริมาณ1.5หมื่นตัน-ภาษีWTO

“ไทย”คว้าโควตาน้ำตาลทรายเข้าสหรัฐ   ปี69ปริมาณ1.5หมื่นตัน-ภาษีWTO

ยูเอสทีอาร์ ประกาศโควตานำเข้าน้ำตาลทรายสู่ตลาดสหรัฐประจำปี 69 ตามสิทธิข้อตกลงการค้าโลก ไทยคว้า 1.5 หมื่นตัน ขณะโดมินิกัน บราซิล และฟิลิปปินส์ รั่งท๊อปทรี เฉลี่ยมากกว่า 1.5 แสนตัน SCB EIC ชี้อุตสาหกรรมน้ำตาลทรายของไทยสดใส

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ออกประกาศเกี่ยวกับการจัดสรรโควตาอัตราภาษี (TRQs) แบบเฉพาะประเทศและแบบใครมาก่อนได้ก่อน (first-come, first-served) สำหรับน้ำตาลอ้อยดิบ น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลที่นำเข้า สำหรับปีงบประมาณ 2569 (1 ต.ค. 2568 ถึง 30 ก.ย. 2569) โดย TRQs จะถูกจัดสรรตามปริมาณการค้าในอดีต

TRQs อนุญาตให้ประเทศต่างๆ ส่งออกสินค้าปริมาณหนึ่งไปยังสหรัฐด้วยอัตราภาษีที่ค่อนข้างต่ำ แต่การนำเข้าสินค้าทั้งหมดที่เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจะต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่า เพื่อความชัดเจน การนำเข้าทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่ภายในหรือเกินกว่า TRQs ของสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องซึ่งออกตามอำนาจของประธานาธิบดีภายใต้พระราชบัญญัติอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA)

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 ผู้บริหารสำนักงานบริการการเกษตรต่างประเทศ (ADministrator) ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (Administrator) ได้ประกาศกำหนดปริมาณโควตาสำหรับน้ำตาลอ้อยดิบสำหรับปีงบประมาณ 2569 ปริมาณโควตาสำหรับ TRQ ของน้ำตาลอ้อยดิบสำหรับปีงบประมาณ 2569 คือ 1,117,195 เมตริกตันมูลค่าดิบ (MTRV)* ซึ่งเป็นปริมาณขั้นต่ำที่สหรัฐผูกพันภายใต้ข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) 

สหรัฐเปิด1.1 ล้านตันโควตานำเข้าน้ำตาล

จากข้อมูลการส่งออกน้ำตาลอ้อยดิบของประเทศต่างๆ มายังสหรัฐในอดีต USTR ได้จัดสรร TRQ ของน้ำตาลอ้อยดิบจำนวน 1,117,195 MTRV ให้กับประเทศต่อไปนี้ โดยประเทศไทยได้โควตาปริมาณ 15,061 ตัน ขณะที่สาธารณรัฐโดมินิกัน ได้โควตาสูงสุด 189,343 ตัน บราซิลปริมาณ 155,993 ตัน และ ฟิลิปปินส์ ปริมาณ 145,235 ตัน 

การจัดสรรโควตาน้ำตาลทรายดิบตาม WTO ให้แก่ประเทศที่เป็นผู้นำเข้าน้ำตาลสุทธินั้น จะต้องได้รับการตรวจสอบแหล่งกำเนิดที่ถูกต้อง ใบรับรองสิทธิ์โควตาต้องแนบมากับสินค้านำเข้าจากประเทศใดๆ ที่ได้รับการจัดสรร

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 ผู้บริหารได้ประกาศกำหนดปริมาณโควตาน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ตาม WTO TRQ ประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ 22,000 MTRV ปริมาณนี้ ซึ่งปริมาณซูโครสในสถานะแห้งต้องอ่านค่าโพลาไรซ์ได้ 99.5 องศาขึ้นไป โดยน้ำหนัก ซึ่งรวมถึงปริมาณขั้นต่ำที่สหรัฐผูกพันภายใต้ข้อตกลงรอบอุรุกวัยของ WTO คือ 22,000 MTRV 

โดย 20,344 MTRV กำหนดไว้สำหรับน้ำตาล น้ำเชื่อม และกากน้ำตาล และ 1,656 MTRV สงวนไว้สำหรับน้ำตาลชนิดพิเศษ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้จัดสรรปริมาณน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (TRQ) ดังต่อไปนี้: 10,300 MTRV ให้แก่แคนาดา 2,954 MTRV ให้แก่เม็กซิโก และ 7,090 MTRV ให้แก่ผู้นำเข้าตามลำดับก่อนหลัง นอกจากนี้ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ยังได้จัดสรรปริมาณน้ำตาลชนิดพิเศษ (MTRV) 1,656 MTRV ให้แก่ผู้นำเข้าตามลำดับก่อนหลัง

 

ปี69ไม่เปิดเพิ่มโควตาน้ำตาลทรายพิเศษ

“ในปีนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ได้ตัดสินใจไม่เพิ่มปริมาณน้ำตาลชนิดพิเศษใดๆ ลงในปริมาณน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (TRQ) แม้ว่าปีที่แล้ว กระทรวงเกษตรสหรัฐ ได้เพิ่มปริมาณน้ำตาลทรายชนิดพิเศษ (MTRV) จำนวน 210,000 ตัน (MTRV) ลงในปริมาณน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (TRQ) ประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งบราซิลคิดเป็นเกือบ 50% ของปริมาณนำเข้าทั้งหมด”

สำหรับปริมาณน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (TRQ) จำนวน 64,709 ตัน (MT) สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์บางประเภทตามข้อกำหนดเพิ่มเติมของสหรัฐ ข้อ 8 ในบทที่ 17 ของ HTSUS นั้น USTR ได้จัดสรรปริมาณน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จำนวน 59,250 ตันให้แก่แคนาดา ส่วนที่เหลืออีก 5,459 ตันจากปริมาณน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (MTRV) จะจัดสรรให้กับประเทศอื่นๆ โดยให้บริการตามลำดับก่อนหลัง โดยน้ำตาลทรายดิบ น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์และน้ำตาลทรายชนิดพิเศษ และผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์สำหรับ TRQ ปีงบประมาณ 2569 สามารถเข้าสู่สหรัฐได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2568

ปี68ทิศทางรายได้อุตฯน้ำตาลดีขึ้น

ทั้งนี้ SCB EIC คาดว่า รายได้อุตสาหกรรมน้ำตาลในปี 2025 มีแนวโน้มขยายตัวดี โดยมีปัจจัยหนุนจากปริมาณผลผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งช่วยหักล้างผลของราคาที่มีแนวโน้มลดลงปริมาณผลผลิตน้ำตาลไทยในปีการผลิต 2024/2025 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.5% จากปีการผลิต 2023/2024 มาอยู่ที่ 10.6 ล้านตัน ตามปริมาณอ้อยเข้าหีบที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 96.7 ล้านตัน จากปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลาย 

ในขณะที่ราคาส่งออกน้ำตาลโดยเฉลี่ยในปี 2025 จะปรับตัวลดลง 2.8%YOY สอดคล้องกับราคาน้ำตาลทรายดิบรวมพรีเมียมที่บริษัทอ้อยและน้ำตาลไทยทำได้ (ใช้อ้างอิงราคาของผู้ประกอบการรายอื่น ๆ) ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากปีการผลิตที่ผ่านมา เนื่องจากแม้ราคาน้ำตาลโลกจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 เป็นต้นไป จากภาวะขาดดุลของน้ำตาลในตลาดโลก แต่จะยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาน้ำตาลโลกในช่วงปลายปี 2023 และต้นปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการทำราคาน้ำตาลล่วงหน้าของปีการผลิตที่ผ่านมา 

สำหรับมูลค่าการส่งออกน้ำตาลปี 2025 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 28.7%YOY สอดคล้องกับปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างไรก็ดี ยังต้องจับตาความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำตาลโลกและความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศที่จะกระทบต่อผลผลิตน้ำตาล

แนะคงคุณภาพ-ดูแลชาวไร่-ผู้บริโภค

      ในส่วนกำไรของธุรกิจโรงงานน้ำตาลโดยรวมในปี 2025 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตอ้อยที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันอุตสาหกรรมน้ำตาลมีกำลังการผลิตมากกว่าปริมาณอ้อยในประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการจะต้องแข่งขันกันจัดหาอ้อยมาป้อนโรงงานให้ได้มากที่สุด เพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลง ซึ่งปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้นในปีการผลิต 2024/2025 จะส่งผลให้การแข่งขันลดลง ผลผลิตน้ำตาลและผลพลอยได้สูงขึ้น ส่งผลดีต่อกำไรของผู้ประกอบการในปี 2025 ทั้งนี้นอกจากการจัดหาวัตถุดิบแล้ว โรงงานน้ำตาลยังมีการแข่งขันกัน ด้านอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ การยกระดับและพัฒนาคุณภาพสินค้า และการมุ่งสู่ความยั่งยืน ดังนั้นกลุ่มบริษัทที่สามารถสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเกษตรกร สร้างแบรนด์ มีประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลสูง มีสินค้าที่ตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพของผู้บริโภค และมีการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้

“ไทย”คว้าโควตาน้ำตาลทรายเข้าสหรัฐ   ปี69ปริมาณ1.5หมื่นตัน-ภาษีWTO