Local Content ชี้ชะตาภาคการผลิตและเศรษฐกิจไทย

Local Content ชี้ชะตาภาคการผลิตและเศรษฐกิจไทย

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญเมื่อต้องเผชิญกับมาตรการทางการค้าจากประเทศคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐ ประเด็นที่เสนอให้ใช้เกณฑ์สัดส่วนมูลค่าการผลิตในประเทศ หรือที่เรียกว่า Local Content ซึ่งมีตัวเลขสูงถึง 60% สำหรับสินค้าที่ส่งออกจากไทย

    การกำหนดเกณฑ์ที่เกินกว่า 45% นี้ ไม่เพียงแต่เป็นตัวเลขที่สูงเกินกว่าที่ไทยเคยเจรจาไว้ แต่ยังเป็นมาตรการที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่พึ่งพาวัตถุดิบและชิ้นส่วนจากต่างประเทศเป็นหลักอีกด้วย
    ว่ากันว่าข้อกำหนดนี้จะบีบบังคับให้ภาคธุรกิจไทยต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานครั้งใหญ่ การที่ต้องจัดหาวัตถุดิบและชิ้นส่วนจากแหล่งภายในประเทศในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอุตสาหกรรมที่ยังขาดแคลนวัตถุดิบต้นน้ำ หรือมีคุณภาพและราคาที่ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าได้โดยตรง ผลกระทบที่ตามมาจะทำให้ต้นทุนการผลิตโดยรวมสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยในตลาดสหรัฐลดลง

    โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการนำเข้าสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่อาจได้รับผลกระทบหนักที่สุดจนถึงขั้นไม่สามารถรักษาตลาดสหรัฐไว้เลยก็เป็นได้ และอาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทาน
    นอกจากนี้เกณฑ์ Local Content ที่เข้มงวดยังอาจทำลายโอกาสของไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค (Transshipment Hub) แม้ข้อมูลที่ชี้ว่าการส่งออกไทยไปสหรัฐ โตขึ้นถึง 27% แต่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมภายในประเทศกลับเติบโตไม่ถึง 1% บ่งชี้ว่าสินค้าจำนวนมากที่ส่งผ่านไทยไปยังสหรัฐอาจเป็นการสวมสิทธิ์แหล่งกำเนิดสินค้า หากเกณฑ์ใหม่นี้มีผลบังคับใช้ สินค้าเหล่านี้จะถูกสกัดกั้น ทำให้ไทยสูญเสียบทบาทสำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมทางการค้า และอาจทำให้นักลงทุนพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นที่มีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าอีกด้วย

    การเจรจาเพื่อหาข้อสรุปในประเด็น Local Content จึงไม่ใช่เพียงแค่การต่อรองตัวเลขทางภาษี แต่เป็นการกำหนดทิศทางอนาคตของภาคการผลิตและเศรษฐกิจไทย รัฐบาลและภาคเอกชนจึงต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินผลกระทบที่แท้จริงในแต่ละอุตสาหกรรม กำหนดกลยุทธ์การเจรจาที่รัดกุม และเตรียมพร้อมมาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากไม่สามารถหาทางออกที่เหมาะสมได้ ความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลกก็จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และอาจนำไปสู่การเสียโอกาสทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้