ตำรวจ เมืองสมุทรสงครามสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วย น้ำปลาจาก ปลาหมอคางดำ

ตำรวจ เมืองสมุทรสงครามสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วย น้ำปลาจาก ปลาหมอคางดำ

แหล่งน้ำปลาชั้นเลิศ ต้องมาจากแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ที่่ส่วนใหญ่ใช้ปลากะตักหรือปลาไส้ตันเป็นวัตถุดิบ แต่แนวคิดใหม่ จากความตั้งใจของตำรวจในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม และร่วมดูแลระบบนิเวศ ได้เปลี่ยนมาใช้ปลาหมอคางดำแทน

พันตำรวจเอก สมชาย ขอค้า ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสงคราม  มองเห็นการแพร่ระบาดของ  “ปลาหมอคางดำ” ไม่ใช่ปัญหา ด้วยปลาชนิดนี้มีประโยชน์ บริโภคได้ จึงพลิกให้เป็น “โอกาส” โดยนำปลาชนิดนี้มาหมักเป็นน้ำปลา เครื่องปรุงรส คู่ครัวไทย ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน

ตำรวจ เมืองสมุทรสงครามสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วย น้ำปลาจาก ปลาหมอคางดำ

ด้วยความร่วมมือจากประมงจังหวัดสมุทรสงครามและ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ที่มาถ่ายทอดความรู้และทักษะวิธีการหมักน้ำปลาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและแม่บ้านตำรวจ โดยใช้ปลาหมอคางดำเป็นวัตถุดิบ ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับมาตรฐานการผลิตที่ถูกหลักสุขอนามัย ใช้ปลาหมอคางดำหมักกับเกลือสมุทรคุณภาพในท้องถิ่น ด้วยอัตราส่วน 4 ต่อ 1 บรรจุในโอ่งดินเผา หมักไว้ราว 12 เดือน ก่อนจะได้น้ำปลาสีน้ำตาลใส กลิ่นหอมเฉพาะ และรสชาติกลมกล่อมไม่แพ้น้ำปลาจากปลากะตัก

ตำรวจ เมืองสมุทรสงครามสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วย น้ำปลาจาก ปลาหมอคางดำ ตำรวจ เมืองสมุทรสงครามสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วย น้ำปลาจาก ปลาหมอคางดำ

โครงการน้ำปลาจากปลาหมอคางดำเป็นหนึ่งใน “กิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิต” ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวของสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสงคราม เพื่อสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยในครัวเรือน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างสุขให้ชุมชน ควบคู่กับการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการนำปลาหมอคางดำขึ้นมาใช้ประโยชน์ยิ่งมากเท่าใด ยิ่งช่วยฟื้นสมดุลของระบบนิเวศในพื้นที่ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการนำปลาหมอคางดำขนาดเล็กมาหมักเป็นน้ำหมักชีวภาพใช้แทนปุ๋ยเคมี ส่งผลให้ผักสวนครัวเจริญงอกงามและให้ผลผลิตที่ดีขึ้น

“พลังความร่วมมือ” ที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการของหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม แต่เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชน"

จากโอ่งหมักน้ำปลาล็อตแรกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา วันนี้ กลายเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนวิกฤตเป็นพลังบวก เพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบ ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยเชื่อมโยงอาหาร สิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน