ครม.แต่งตั้งข้าราชการล็อตใหญ่ 'ดนุชา' นั่งเลขาฯ สทนช. 'พชร' ปลัด DES

ครม.แต่งตั้งข้าราชการล็อตใหญ่ 'ดนุชา' นั่งเลขาฯ สทนช. 'พชร' ปลัด DES

ครม.ไฟเขียวโยกย้ายข้าราชการระดับสูงล็อตใหญ่ “พชร” ข้ามห้วยนั่งปลัดดีอีเอส “ดนุชา” ไปเลขาฯสทนช. พร้อมไฟเขียวโยกย้าย 25 ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโยกย้ายข้าราชการระดับสูงหลายตำแหน่ง ได้แก่ นายพชร อนันตศิลป์ จากผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการวันที่ 1 ต.ค.2568

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการวันที่ 1 ต.ค.2568

ครม.อนุมัติให้นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ จากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 

ครม.เห็นชอบให้แต่งตั้ง นายยงยุทธ นาควิโรจน์ จากผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ

นอกจากนี้ ครม. ยังมีมติเห็นชอบตามที่ กระทรวงมหาดไทย เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้พิจารณา รวม 25 ตำแหน่ง ประกอบด้วย

1.นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ มาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง

2.นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก มาเป็นรองปลัดกระทรวง

3.นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง มาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง

4.นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ มาเป็นรองปลัดกระทรวง

5.ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง

6.นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง

7.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง

8.ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง

9.นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง

10.นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

11.นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่

12.นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

13.นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

14.นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

15.นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี

16.นายศุภมิตร ชินศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์

17.นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

18.นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

19.นายชยชัย แสงอินทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม

20.นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

21.นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

22.น.ส.ชุติพร เสชัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน

23.นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น

24.นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ

และ 25.นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

และมีมติอนุมัติการเสนอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ซึ่งจะดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี ในวันที่ 30 กันยายน 2568

และจะต้องพ้นจากราชการ (ครบเกษียณอายุ) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2569 เป็นต้นไป ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วต่อไป อีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2569