ทางสองแพร่งรัฐบาลปรับโครงสร้างอุตฯยานยนต์

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญของการเปลี่ยนแปลง จากการเป็นฐานการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปไปสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
โดยอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รายงานว่ามีสัดส่วน 8% ของจีดีพี รวมทั้งมีการจ้างงาน 850,000 คน มีอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เข้มแข็งทำให้มีซัพพลายเออร์ 1,700 ราย โดยปี 2543 ไทยมีการประกอบรถได้ถึง 1 ล้านคัน และก้าวมาเป็นดีทรอยต์ออฟเอเชีย
ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลักดันนโยบาย EV 30@30 เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าครองส่วนแบ่งตลาด 30% ภายในปี 2573 แต่ความท้าทายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การสร้างอุตสาหกรรม EV ขึ้นมาใหม่เท่านั้น หากแต่เป็นการบริหารจัดการ “ทางสองแพร่ง” ระหว่างการรักษาความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์เดิมที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) พร้อมกับการพัฒนาระบบนิเวศ EV อย่างยั่งยืน ประเด็นนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นรักษาสมดุลของฐานการผลิตรถยนต์ทั้ง 2 กลุ่ม
ในอดีตค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานการผลิตและสร้างอุตสาหกรรมสนับสนุนที่ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอีไทย เพื่อทำหน้าที่เป็นซัพพลายเออร์ระดับเทียร์ 1, 2 และ 3 ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ต่างๆ ซึ่งมีส่วนสร้างโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวแรกเป็นรถกระบะ ต่อมาได้สร้างโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวที่ 2 เป็นรถอีโคคาร์ ที่ต้องฟาดฟันระหว่างการต่อยอดอุตสาหกรรมยานยนต์ กับความพยายามของกลุ่มการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ในไทยที่ไม่ต้องการให้อีโคคาร์เกิดขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบายส่งเสริม EV ทำให้ค่ายรถจีนที่เป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแห่เข้ามาขอรับส่งเสริมการลงทุน ในขณะที่ฐานการผลิตดังเดิมส่วนใหญ่ของรถเครื่องยนต์สันดาปเป็นค่ายรถญี่ปุ่นที่ทั้ง 2 ประเทศ มีลักษณะทำธุรกิจต่างกัน ขณะที่แผนปรับโครงสร้างการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) มองถึงการส่งเสริมการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ที่ต่อยอดโปรดักต์แชมป์เปียนทั้ง 2 ตัว และระยะต่อไปควรส่งเสริมการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด ในกลุ่ม HEV และ Mild HEV
ถึงแม้รัฐบาลจะออกตัวว่าส่งเสริมทั้งรถเครื่องยนต์สัปดาปและรถ EV แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการเรียกร้อง คือ การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีแผนส่งเสริมชัดเจนและสร้างสมดุลของฐานการผลิตรถยนต์ 2 กลุ่ม ในขณะที่กลุ่มนักวิชาการเห็นว่านโยบาย EV 30@30 ที่มีต้องมีมาตรการรองรับการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี คำถามนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2565 และคำถามนี้ย้อนกลับไปที่รัฐบาลปัจจุบันและกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลเมื่อปี 2567 ว่ามีแผนอย่างไร







