ธ.ก.ส. ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี มีผล 18 ส.ค.นี้

ธ.ก.ส. ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี มีผล 18 ส.ค. นี้ บรรเทาภาระหนี้สินให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเกษตรกลุ่มเปราะบาง สอดรับนโยบายรัฐบาลและมติ กนง. พร้อมยืนยันเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือครบวงจร
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมขานรับนโยบายดังกล่าว โดยได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้สินให้กับเกษตรกร ลูกค้ารายย่อย และลูกค้ากลุ่มเปราะบาง
โดยการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐให้กับผู้ประกอบการ SME ภาคการเกษตร รวมถึงช่วยให้ธุรกิจสามารถฟื้นตัวและดำเนินงานต่อไปได้ในภาวะเศรษฐกิจที่มีปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ที่ ธ.ก.ส. ปรับลดลงมีดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าประเภทเงินเกินบัญชี (MOR) ลดลงเหลือ 6.375% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้านิติบุคคลชั้นดี (MLR) ลดลงเหลือ 6.125% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลดลงเหลือ 6.625% ต่อปี
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ธ.ก.ส. ได้ออกมาตรการดูแลหนี้สินอย่างครบวงจรให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อยตามนโยบายรัฐบาลในเฟส 2 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 1.431 ล้านราย และมียอดหนี้กว่า 189,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ดำเนินการฟื้นฟูอาชีพให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการ เพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนในการประกอบอาชีพ
ธ.ก.ส. ยังคงเดินหน้าสนับสนุนเงินทุนผ่านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่อง เช่น สินเชื่อแทนคุณ และ สินเชื่อเงินด่วนสิบหมื่น สำหรับสมาชิก อสม. และ อสส. รวมถึง สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ เพื่อสร้างรายได้ควบคู่ไปกับการทำเกษตรกรรม







