เบิกจ่ายงบปี 68 ส่อหลุดเป้า ‘บัญชีกลาง’ เผยงบลงทุนเบิกจ่ายจริงแค่ 57%

เบิกจ่ายงบปี 68 ส่อหลุดเป้า ‘บัญชีกลาง’ เผยงบลงทุนเบิกจ่ายจริงแค่ 57%

กรมบัญชีกลาง รับเบิกจ่ายงบประมาณปี 68 มีแนวโน้มไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ชี้งบลงทุนที่ทำได้เพียง 57% ต่ำกว่าเป้า ขณะที่งบกระตุ้นเศรษฐกิจยังพบปัญหาล่าช้าด้านการจัดซื้อจัดจ้าง คาดงบลงทุนสิ้นปีอาจเบิกจ่ายได้ไม่ถึงเป้าที่ 80%

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 โดยรวมมีแนวโน้มไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบลงทุนที่ไม่รวมงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีการก่อหนี้ไปแล้วประมาณ 78% แต่สามารถเบิกจ่ายจริงได้เพียง 57% เท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมาย ณ สิ้นเดือนสิงหาคมที่ตั้งไว้ว่าควรจะก่อหนี้ได้ 92% และเบิกจ่ายได้ 71%

แม้ว่าภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งหมดจะทำได้ 78% เมื่อเทียบกับเป้าหมาย 87% ณ สิ้นเดือนสิงหาคม แต่เมื่อพิจารณาในภาพรวมจนถึงสิ้นปีงบประมาณนี้ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ยอมรับว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนอาจจะไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 80% และคาดว่าน่าจะทำได้เพียง 75% ซึ่งทางกรมฯ กำลังเร่งกำกับติดตามหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อให้มีการเบิกจ่ายได้มากที่สุดในช่วงเวลาที่เหลือ

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับงบประมาณรายจ่ายลงทุนปี 2568 มีวงเงินรวม 908,224 ล้านบาท มีเป้าหมายการเบิกจ่ายที่ 80%หรือคิดเป็น 726,000 ล้านบาท แต่หากการเบิกจ่ายจริงทำได้เพียง 75% จะทำให้เม็ดเงินที่เบิกจ่ายได้จริงอยู่ที่ 681,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุน ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 45,000 ล้านบาท

เร่งเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำหรับการติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 ก้อนแรกจำนวน 115,000 ล้านบาท ขณะนี้มีการเบิกจ่ายไปแล้ว 22,732 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกคือ กระทรวงแรงงาน กองทุนหมุนเวียน และรัฐวิสาหกิจ แต่ก็ยังพบปัญหาบางหน่วยงานไม่กล้าจัดซื้อจัดจ้างเนื่องจากรองบประมาณ แม้ว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันทีหลังสภาอนุมัติแล้วก็ตาม อีกทั้งบางหน่วยงานยังเร่งเบิกจ่ายงบประจำก่อน ทำให้งบกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดความล่าช้า

นางแพตริเซีย กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมายมาจาก กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ล่าช้า ทั้งจากความไม่พร้อมของผู้รับจ้างและการอุทธรณ์ร้องเรียนที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้กระบวนการสะดุดลง อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ ได้พยายามเร่งพิจารณาการอุทธรณ์ให้จบภายใน 60 วันตามกฎหมาย พร้อมประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เริ่มกระบวนการประกาศประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างก่อนวันที่ 30 กันยายน 2568 สามารถกันเงินไว้ใช้ในปีถัดไปได้

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลถึงแนวโน้มการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2569 ที่จะมีงบประมาณสะสมหลายก้อน โดยเฉพาะหน่วยงานขนาดใหญ่ที่ได้รับงบจำนวนมาก อาจจะเบิกจ่ายได้ไม่ทันตามเป้าหมายที่กำหนดไว้