“พิชัย” กางแผน 6 ด้าน ดันนวัตกรรม หนุน SME ถอดไทยออกจาก Watch list สหรัฐ

“พิชัย” กางแผน 6 ด้าน ดันนวัตกรรม หนุน SME ถอดไทยออกจาก Watch list สหรัฐ

“พิชัย” นั่งประธาน คทป. กางแผน 6 ด้าน ดันนวัตกรรม หนุน SME พร้อมขับเคลื่อนถอดไทยพ้นบัญชีจับตามอง (Watch List) ของสหรัฐ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) ร่วมกับ นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานภาครัฐกว่า 20 แห่ง เพื่อบูรณาการการขับเคลื่อนแผนพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักคือ ยกระดับนวัตกรรม เสริมความแข็งแกร่งให้กับ SMEs และผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นายพิชัย กล่าวว่า ทรัพย์สินทางปัญญาถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในมิติเศรษฐกิจและการต่างประเทศ หากประเทศไทยมีระบบนิเวศด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้

แผนขับเคลื่อน 6 ด้าน ยกระดับนวัตกรรมไทย

 

ที่ประชุม คทป. ได้กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายในระยะสั้น กลาง และยาว พร้อมมอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของไทยตามกรอบดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index: GII) โดยมีแนวทางขับเคลื่อน 6 ด้าน ได้แก่

1.การใช้ประโยชน์งานวิจัยและการลงทุนด้านนวัตกรรม

2.การเพิ่มมูลค่านวัตกรรมด้วยความคิดสร้างสรรค์และทรัพย์สินทางปัญญา

3.การพัฒนานวัตกรรมผ่านกลไกทางการเงินและตลาดทุน

4.การส่งเสริมการขยายผลและการใช้ประโยชน์นวัตกรรม

5.การพัฒนาวิสาหกิจฐานนวัตกรรมและกำลังคนรุ่นใหม่

6.การบริหารจัดการข้อมูลนวัตกรรม

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายหลักในการสร้างความเข้มแข็งให้ SMEs โดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ที่ประชุมจึงได้เห็นชอบ แผนพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญา พ.ศ. 2569–2570 ซึ่งจะมีการบูรณาการการทำงานเชิงรุกในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนากฎหมาย การป้องปรามการละเมิด การให้บริการภาครัฐ และการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน

การดำเนินการเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวทางสำคัญในการทำให้สหรัฐอเมริกาพิจารณา ถอดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List) ตามกฎหมายการค้ามาตรา 301 พิเศษอีกด้วย

การประชุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน การลงทุน และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน