ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งต่อเนื่องเดือนที่ 6 พิษภาษีทรัมป์ - ขัดแย้งไทย - กัมพูชา

ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 51.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 31 เดือน นับตั้งแต่เดือนม.ค.2566 เหตุกังวลการเมือง ภาษีทรัมป์ เศรษฐกิจไทยชะลอตัว ความขัดแย้งชายแดนไทย - กัมพูชา
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือน ก.ค.68 ปรับตัวลดลงจากระดับ 52.7 เป็น 51.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 31 เดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค.2566 เป็นต้นมา ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 45.6 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 49.8 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 59.6 ซึ่งดัชนีฯ ทุกตัว ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เช่นกัน
สาเหตุที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาล และการเมืองของไทย รวมทั้งสงครามการค้าจากนโยบาย Trump 2.0 ตลอดจนสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา แม้ว่าจะมีการเจรจาหยุดยิงแล้วก็ตาม ซึ่งทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้งตั้งแต่ต้นปี แต่ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้า และการเข้าถึงสินเชื่อลำบาก
“ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบ 31 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.66 จากความกังวลทั้งเรื่องการเจรจาภาษีทรัมป์, ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังไม่นิ่ง รวมทั้งการเมืองไทยที่ยังมีความไม่แน่นอน ภาพรวมจะเห็นว่าความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้นตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเข้าสู่วัฏจักรขาลง และเป็นการถดถอยลงในเชิงเทคนิค” นายธนวรรธน์ กล่าว
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยปรับลดลงจากระดับ 46.7 เป็น 45.9 โดยยังคงมีสัญญาณปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 31 เดือน ซึ่งต่ำกว่า 50 เช่นกัน โดยภาคธุรกิจกังวลเกี่ยวกับผลกระทบภาษีทรัมป์ เสถียรภาพของรัฐบาล ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งภาคธุรกิจเสนอให้ภาครัฐ เร่งดำเนินการในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ แผนการเจรจาต่อรองภาษีกับประเทศมหาอำนาจที่มีผลต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย และการรับมือกับการปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐ อย่างเป็นรูปธรรม ออกมาตรการป้องกัน และรับมือกับสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา รวมทั้งการบริหารจัดการการค้าชายแดน
นอกจากนี้ควรหามาตรการป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง หามาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง มาตรการกระตุ้นที่สามารถเพิ่มยอดคำสั่งซื้อสินค้า บริการในทุกสาขาธุรกิจ รวมทั้งขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย รักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการส่งออก และภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในภูมิภาคได้
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ดัชนีทั้ง 2 รายการ ทั้งผู้บริโภค และภาคธุรกิจ ในเดือนก.ค. ตกลงต่อเนื่อง และตกลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 31 เดือนทั้ง 2 รายการ เพราะทั้งผู้บริโภค และภาคธุรกิจเอง กังวลปัญหา เสถียรภาพรัฐบาล สงครามการค้าจากนโยบาย ทรัมป์ 2.0 ที่ไทยได้ 19 % และความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา ดัชนีทั้งผู้บริโภค และภาคเอกชนที่ตกลง สะท้อนให้เห็นว่า กำลังซื้อไม่โดดเด่น เศรษฐกิจยังซึมตัว ยังต้องการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่ง ม.หอการค้า ยังคงประมาณการจีดีพีไทยปี 68 โต 1.7%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







