‘สภาพัฒน์’ ยก 10 ความเสี่ยง - ภัยคุกคาม ฉุดรั้งการพัฒนาเศรษฐกิจไทย

ที่ปรึกษา สศช.กางข้อมูล 10 ความเสี่ยงระดับโลก – ภัยคุกคาม หลายด้านทั้งเศรษฐกิจ หนี้สิน สิ่งแวดล้อม ประเทศไทย ฉุดรั้งประเทศติดกับดัก ก้าวสู่ประเทศรายได้สูง
เมื่อเร็วๆนี้ นายวิชญ์พิพล ติวะตันสกุล ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวในหัวข้อ “ความท้าทายความสำเร็จของยุทธศาสตร์ชาติ ในมิติการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมไทย” ในการอบรมหลักสูตรฝึกอบรมนักบริหารการแพทย์และสาธารณสุขระดับสูง (น.บ.ส.) รุ่น 41 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 และแผนระดับต่าง ๆ สถานการณ์สำคัญด้านเศรษฐกิจและสังคม พร้อมทั้งแนวทางในการขับเคลื่อนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน
นายวิชญ์พิพล ได้กล่าถึงโอกาสและอุปสรรคสำคัญของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจรายได้สูง โดยได้เน้นย้ำถึงทั้งความเสี่ยงระดับโลกและภัยคุกคามภายในประเทศที่กำลังเป็นข้อจำกัดสำคัญ
ความเสี่ยงโลกกระทบเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ได้ระบุถึงความเสี่ยงระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อไทย: มุมมองจาก World Economic Forum (WEF)ตามรายงาน “The Global Risks Report 2024” ที่สำรวจโดย WEF ได้คาดการณ์ความเสี่ยงรุนแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในอนาคตจำนวน 5 ข้อ ดังนี้
1. ความเสี่ยงรุนแรงที่จะเกิดปัญหาในระยะสั้น โดยมี 3 เรื่องสำคัญที่จะเกิดในอีก 2 ปีข้างหน้า ได้แก่
1) ความเสี่ยงจากสภาพอากาศรุนแรงแบบสุดขั้ว (Extreme weather) ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม
2) ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนจาก AI (AI-generated misinformation and disinformation) ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี
3) การแบ่งขั้วทางสังคม (Societal polarization) ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านสังคมที่จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง
2. ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า มี 2 เรื่อง สำคัญคือ
1) ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สภาพอากาศรุนแรงแบบสุดขั้ว, การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อระบบโลก (Critical change to Earth systems), และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศล่มสลาย (Biodiversity loss and ecosystem collapse)
2) ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี และสังคมด้านอื่นๆ ที่มีความซ้ำซ้อนมากขึ้นในอนาคต
ภัยคุกคามโดยตรงกระทบเศรษฐกิจ
นอกจากนั้นประเทศไทยยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยคุกคามโดยตรง และข้อจำกัดภายในของประเทศไทย ที่ถือเป็น “ภัยคุกคาม” ที่จะกระทบกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องกับข้อจำกัดและอุปสรรคภายในประเทศ ได้แก่
- ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Economic downturn) ที่มีความเสี่ยงจะเกิดมากขึ้นในอนาคต
- ปัญหามลพิษ (Pollution) ที่มีความรุนแรงมากขึ้น
- การขาดแคลนแรงงาน (Labour shortage) โดยปัญหาการจ้างงานเด็กจบใหม่เนื่องจากขาดประสบการณ์และมีปัญหาด้านการปรับตัวยังคงเป็นประเด็นสำคัญ
1.หนี้ครัวเรือน (Household debt) ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงและน่าเป็นห่วง โดยส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวในสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) และการซื้ออสังหาริมทรัพย์ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีมูลค่าสูงถึง 1.74 แสนล้านบาท และสินเชื่อค้างชำระ 30 – 90 วัน (SML) มีมูลค่า 0.57 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ พฤติกรรม “ติดหรู” และก่อหนี้เกินตัวของคนไทยก็เป็นปัจจัยที่เพิ่มความน่ากังวล
2.ความไม่เท่าเทียมทางความมั่งคั่งและรายได้ (Inequality wealth, income) ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ยังคงอยู่ พร้อมด้วยปัญหาความเหลื่อมล้ำในโอกาสการเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดอื่น ๆ ของไทยยังรวมถึงการพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวสูง ทำให้เศรษฐกิจอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก, ปัญหาคนว่างงาน/ขาดแรงงานที่มีทักษะ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ/ปัญหาสิ่งแวดล้อม, และประสิทธิภาพ และธรรมาภิบาลของภาครัฐ
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไขเพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการเป็นประเทศรายได้สูง ที่ประเทศไทยต้องวางแผนรับมือและแก้ไข”







