ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่อ จากโอเปกพลัสเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่อ จากโอเปกพลัสเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่อ ขณะกลุ่มโอเปกพลัสยังคงเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกันยายน ตลาดจับตาสหรัฐคว่ำบาตรรัสเซียและคู่ค้า ขึ้นภาษีประเทศที่ซื้อน้ำมันรัสเซีย

รอยเตอร์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (4 ส.ค.) หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้งในเดือนกันยายน แม้ว่านักลงทุนยังคงระมัดระวังมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 91 เซนต์ หรือ 1.31% ปิดที่ 68.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐฯ (WTI) ลดลง 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 66.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งสองสัญญาปิดตลาดลดลงประมาณ 2 ดอลลาร์ในวันศุกร์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (โอเปก) และพันธมิตร ได้ตกลงกันที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 547,000 บาร์เรลต่อวันสำหรับเดือนกันยายน ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดจากการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดคืน

การเคลื่อนไหวครั้งนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ถือเป็นการพลิกกลับอย่างเต็มรูปแบบและรวดเร็วของการลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งคิดเป็นประมาณ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 2.4% ของความต้องการน้ำมันทั่วโลก

นักวิเคราะห์ของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นจริงจาก 8 ประเทศสมาชิกโอเปกพลัสที่เพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนมีนาคมจะอยู่ที่ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากประเทศสมาชิกอื่นๆ ได้ลดกำลังการผลิตลงหลังจากที่เคยผลิตน้ำมันเกินโควตาการผลิตมาก่อนหน้านี้

ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี 100% ประเทศที่ซื้อน้ำมันรัสเซีย

นักลงทุนยังคงจับตามองผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรล่าสุดของสหรัฐฯ ที่มีต่อสินค้าส่งออกจากคู่ค้าหลายสิบประเทศ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมของสหรัฐฯ เนื่องจากทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตรา 100% จากประเทศที่ซื้อน้ำมันรัสเซีย ขณะที่เขากำลังพยายามกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน

“ในระยะกลาง ราคาน้ำมันจะถูกกำหนดโดยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งภาษีศุลกากรและปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ คาดว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอันเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ” ทามาส วาร์กา นักวิเคราะห์จาก PVM กล่าว

แหล่งข่าวการค้ากล่าวเมื่อวันศุกร์ และจากรายงานการค้าของ LSEG แสดงให้เห็นว่า เรืออย่างน้อยสองลำที่บรรทุกน้ำมันรัสเซียกำลังมุ่งหน้าไปยังอินเดีย ได้เปลี่ยนเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทางอื่นหลังจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์ของธนาคาร ING ระบุในบันทึกว่า หากโรงกลั่นน้ำมันของอินเดียหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย อุปทานน้ำมันดิบประมาณ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวันอาจตกอยู่ในความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรัฐบาลอินเดียสองรายบอกกับรอยเตอร์เมื่อวันเสาร์ว่า อินเดียจะยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซียต่อไป แม้ว่าทรัมป์จะขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียสูงมากก็ตาม

อัปเดตราคาเช้านี้ (5 ส.ค.)

บลูมเบิร์ก รายงาน ราคานำ้มันดิบเบรนท์สัญญาส่งมอบในเดือนตุลาคมเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 68.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 8:33 น. ตามเวลาสิงคโปร์

WTI ส่งมอบเดือนกันยายนทรงตัวที่ 66.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล