BPP ลุยลงทุนครึ่งปีหลัง 'โรงไฟฟ้า-แบตเตอรี-SMR-ชีวมวล' ดันเติบโตยั่งยืน

BPP ลุยลงทุนครึ่งปีหลัง 'โรงไฟฟ้า-แบตเตอรี-SMR-ชีวมวล' ดันเติบโตยั่งยืน

BPP เผยแผนลงทุนครึ่งปีหลัง มองโอกาส M&A โรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ และขยาย Battery Farm ในญี่ปุ่น พร้อมศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้า SMR และชีวมวล หวังสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายธีรภัทร์ วงศ์ระวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – การเงิน บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ว่า บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ที่มีกำลังการผลิตระหว่าง 300-1,000 เมกะวัตต์ ทั้งที่เดินเครื่องผลิตแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

นอกจากนี้ BPP ยังมีแผนขยายการลงทุนบนพื้นที่ว่างใกล้กับโรงไฟฟ้า Temple l และ Temple ll ในรัฐเท็กซัส ซึ่งสามารถสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ขนาด 750 เมกะวัตต์ หรือโรง Battery Farm เพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในสหรัฐยังคงต้องรอความชัดเจนเรื่องนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐ หรือ Reciprocal Tariff ของแต่ละประเทศซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ที่ต้องนำเข้าอุปกรณ์จากหลายประเทศ เช่น เหล็กจากจีน และเครื่องจักรจากยุโรป

สำหรับงบลงทุนในปี 2568 ที่ตั้งไว้ 200-400 ล้านดอลลาร์ บริษัทได้ใช้ไปแล้วประมาณ 20-30 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) หรือ แบตเตอรี่ ฟาร์ม ในประเทศญี่ปุ่น โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการขยายโครงการแบตเตอรี่ ฟาร์มเพิ่มเติมในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ BPP ยังคงมองหาโอกาสเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มพอร์ตการลงทุน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 3,500 เมกะวัตต์ รวมถึงการศึกษาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอย่างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) ในต่างประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนในอนาคต

นายธีรภัทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในไตรมาส 4 ปีนี้ BPP มีแผนนำ ชีวมวล ประมาณ 10% มาผสมกับถ่านหินเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและรักษาต้นทุนค่าไฟฟ้าไม่ให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการยื่นขอต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่จะหมดลงในปี 2574

"เราตั้งงบลงทุนรวม 5 ปี (2568-2573) ไว้ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยตั้งเป้าหมายให้ EBITDA เติบโตมากกว่า 1.8 เท่าภายในปี 2573 เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท" นายธีรภัทร์ กล่าว