ตำนาน 10 ปี ICD ลาดกระบัง การรถไฟฯ ปิดจ๊อบ ชงร่วมทุน ส.ค.นี้

ย้อนปัญหาการประมูลที่อาจไม่โปร่งใส ฉุดโครงการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง กินเวลากว่า 10 ปี การรถไฟฯ ประกาศความพร้อม เตรียมเสนอ สคร. และ ครม.ไฟเขียว ลงนามร่วมทุนภายใน ส.ค.นี้
KEY
POINTS
- ย้อนปัญหาการประมูลที่อาจไม่โปร่งใส กำหนดคุณสมบัติให้ผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นนิติบุคคลรายใหญ่ หรือกิจการร่วมค้าเพียงรายเดียว ฉุดโครงการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง กินเวลากว่า 10 ปี
- การรถไฟฯ ประกาศความพร้อม เตรียมเสนอ สคร. และ ครม.ไฟเขียว ลงนามร่วมทุน กิจการร่วมค้า เอ แอล จี (ประเทศไทย) ภายใน ส.ค.นี้ ลุย PPP Net Cost สัญญาสัมปทาน 20 ปี
โครงการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่รัฐเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน นับจากวันที่ 15 มิ.ย. 2558 ซึ่งเป็นวันที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ประกาศเรื่องการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง โดยประกาศดังกล่าวมีเลขที่ คน.1/213/2558 กำหนดให้ผู้สนใจร่วมลงทุน สามารถขอซื้อเอกสารการร่วมลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 2558 ถึง 14 ส.ค. 2558
จนปัจจุบันโครงการนี้กินเวลาดำเนินการมากว่า 10 ปีแล้ว เพราะต้องเผชิญปัญหาระหว่างการคัดเลือกเอกชน ที่มีการคัดค้านถึงกระบวนการคัดเลือก กระบวนการในการประมูลที่อาจไม่โปร่งใส ทำให้ท้ายที่สุดโครงการนี้ต้องเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม
เนื่องจากมีเอกชนรายหนึ่งยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง โดยระบุว่าข้อกำหนดในเอกชนประกวดราคา (TOR) กำหนดคุณสมบัติให้ผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นนิติบุคคลรายใหญ่ หรือกิจการร่วมค้าเพียงรายเดียว เพื่อเข้าบริหารทั้ง 6 สถานี ถือเป็นการผูกขาด ทำให้ต่อมา รฟท.ต้องยกเลิกการประมูลโครงการนี้ และต่อมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2559 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครอง ทำให้ รฟท.สามารถเดินหน้าประกวดราคาต่อไปได้
ทำให้ในช่วงต้นปี 2561 รฟท. ได้เปิดประกวดราคาโครงการนี้อีกครั้ง โดยมีเอกชนยื่นข้อเสนอเพียง 1 ราย คือ กิจการร่วมค้า เอ แอล จี (ประเทศไทย) จากผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาทั้งสิ้น 10 ราย จากนั้น รฟท.จึงได้เสนอผลการประกวดราคา ซึ่งกิจการร่วมค้า เอ แอล จี (ประเทศไทย) เป็นผู้ชนะไปให้กระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา
โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562 ที่ประชุม ครม. มติให้กระทรวงคมนาคม รับเรื่อง ผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ของ รฟท. และไปพิจารณาจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการให้เป็นไปตามนัยกฎหมายว่าด้วยการรร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
ทั้งนี้ให้มีการศึกษาข้อมูลตามความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวมไปถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน และดำเนินการให้ถูกต้อง ครบถ้วนเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน นอกจากนี้ให้พิจารณาความเห็นเพิ่มเติมเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการดำเนินการก่อนนำเสนอ ครม.ต่อไป
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.มีมติเห็นชอบผลการศึกษาโครงการฯ ตามมติ ครม.ให้ดำเนินการพิจารณาศึกษาให้ครบถ้วน ซึ่ง รฟท.ได้เสนอโครงการดังกล่าวไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว คาดว่าเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือภายในเดือน ส.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอต่อ ครม. พิจารณาต่อไป
สำหรับผลการศึกษาบริษัทที่ปรึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ดำเนินการศึกษาประมาณ 3 เดือน พบว่า โครงการฯ มีความเหมาะสมดำเนินการในรูปแบบการลงทุนเป็น PPP Net Cost สัญญาสัมปทาน 20 ปี อีกทั้งสัญญาใหม่ มีการปรับปรุงในการกำหนดให้เอกชนต้องขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มขึ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 50% ของปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งหมด และจะต้องดำเนินการภายใน 1 ปี ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากสัญญาเดิม ที่มีการกำหนดไว้ให้สัดส่วนการขนส่งรถไฟอยู่ที่ 40%
นายวีริศ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าการประมูลโครงการไอซีดี ลาดกระบังมีความล่าช้ามากกว่า 10 ปี แต่การผลักดันให้เริ่มดำเนินงานนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งสินค้าทางราง โดยปัจจุบันเอกชนผู้ชนะการประมูล คือ กิจการร่วมค้า เอ แอล จี (ประเทศไทย) ยังคงยืนราคาตามเดิม พร้อมวางเงินหลักประกันตามสัญญา (แบงก์การันตี)







