แผน SCGC ลุย IPO ลากยาว รอโครงการเวียดนาม คาดสรุปชัดปี 71

CEO SCG เผยเตรียมพร้อมดัน SCGC บริษัทลูกเข้าแผน IPO อีกครั้ง! รอ "ปิโตรคอมเพล็กซ์" ที่เวียดนามเรียบร้อยในปี 2571
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG เปิดเผยว่า SCG มีแผนการพิจารณานำบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จะมีความชัดเจนภายในปี 2571 เนื่องจากต้องรอให้โครงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้วยวัตถุดิบก๊าซอีเทนของโครงการ LSP ที่เวียดนาม แล้วเสร็จตามแผนในปี 2570 ก่อน
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อปี 2566 SCG ได้ประกาศเลื่อนแผนการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ SCGC ออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ตลาดทุนและเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย โดย SCGC ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ขยายเวลาการเสนอขายได้ถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2566 แต่พิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่เหมาะสมที่จะดำเนินการในช่วงดังกล่าว
นายธรรมศักดิ์ กล่าวว่า ธุรกิจปิโตรเคมีมีสัญญาณดีขึ้นในไตรมาส 2 แต่ยังไม่เข้าภาวะปกติ เพราะความต้องการจากจีนยังสูงแต่กำลังซื้อไม่เพิ่มขึ้นนัก ซึ่งหลังการประกาศภาษีของทรัมป์เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2568 ราคาน้ำมัน ผลิตภัณฑ์จากโรงกลั่นและวัตถุดิบเม็ดพลาสติกลดลง
ส่วนกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นไตรมาส 1 เป็นผลจากการปรับตัวของผู้เล่นในตลาด โดยคาดการณ์ว่าทั้งปีจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้น 12 ล้านตัน แต่จะถูกหักล้างด้วยการหยุดการผลิตถาวร 4 ล้านตัน และการปิดชั่วคราว 15 ล้านตัน เป็นต้น
"ไตรมาส 3 ยังเป็นช่วงท้าทาย แม้ปกติเป็นช่วงที่ซื้อขายมากเพื่อเตรียมสต็อกสำหรับคริสต์มาส แต่คาดว่าซัพพลายจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านตัน และผู้เล่นในภูมิภาค โดยเฉพาะผู้ผลิต PDH (Propane Dehydrogenation) ในจีนจะเร่งกำลังการผลิตตามข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ แต่ภาพรวมไตรมาส 3 คาดว่าทรงตัว
สำหรับแนวทางของจีนในการควบคุมโรงงานปิโตรเคมีเก่าที่มีอายุเกิน 30 ปี และจะขยายไปถึงโรงงานที่มีอายุเกิน 20 ปี ในอนาคตอันใกล้ จะส่งผลให้กำลังการผลิต PP (Polypropylene) ลดลง 10% เป็นผลดีต่อภาพรวมของอุตสาหกรรม รวมทั้งนโยบายที่เอกชนหารือกันว่าจะไม่เน้นแข่งขันด้านราคา แต่จะแข่งขันกันที่คุณภาพเพื่อไม่ให้เกิดภาวะ “ฟาดฟันกันจนตายจากกันไป”
ส่วนความคืบหน้าโรงงานลองเซิน ปิโตเคมิคอลส์ เวียดนาม (LSP) บริษัทคาดว่าจะเปิดดำเนินเชิงพาณิชย์ (COD) อีกครั้งในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ หลังประเมินว่าการเดินเครื่องของโรงงานในปัจจุบันยังดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ แต่หากพิจารณาแล้วว่าเดินเครื่องแล้วทำให้ผลการดำเนินงานเจ็บหนักก็อาจมีการหยุดดำเนินการทันที







