สมชัย แนะไทยเร่งพัฒนาทุนมนุษย์ หวั่นอีก 5 ปีตามหลังเวียดนาม

สมชัย แนะไทยเร่งพัฒนาทุนมนุษย์  หวั่นอีก 5 ปีตามหลังเวียดนาม

ทุนมนุษย์เด็กไทยมีศักยภาพแค่ 61% สะท้อนวิกฤตซ่อนเร้นของประเทศ ช่องว่างด้านการศึกษา ความเหลื่อมล้ำ — TDRI ชี้อีก 5 ปี เวียดนามแซงหน้าไทยทรัพยากรมนุษย์

KEY

POINTS

  • ดร.สมชัย จากทีดีอาร์ไอ เตือนว่าไทยต้องเร่งพัฒนาทุนมนุษย์อย่างจริงจัง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกเวียดนามแซงหน้าทั้งด้านคุณภาพและปริมาณภายใน 5 ปี
  • ดัชนีทุนมนุษย์ (HCI) ของไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 0.61 ซึ่งสะท้อนว่าเด็กไทยที่เติบโตขึ้นจะมีผลิตภาพเพียง 61% ของศักยภาพสูงสุดเท่านั้น
  • ตัวอย่างสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไทยยังไม่หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางคือสัดส่วนประชากรที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลายมีเพียง 40% เทียบกับประเทศพัฒนาแล้วที่มีถึง 70%
  • ปัญหาการพัฒนาทุนมนุษย์ของไทยเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาโภชนาการ และการลดงบประมาณด้านนี้ลงในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

ดัชนีทุนมนุษย์ (Human Capital Index: HCI) ล่าสุด พบว่าค่าดัชนีของไทยอยู่ที่ 0.61 ตัวเลขนี้สะท้อนความจริงอันน่ากังวลว่า เด็กไทยคนหนึ่งที่เติบโตขึ้นจะมีผลิตภาพเพียง 61%  ของศักยภาพสูงสุดของพวกเขาเท่านั้น

ช่องว่างดังกล่าวมีรากฐานมาจากปัญหาที่ซับซ้อนหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ตลอดจนการขาดโอกาสในการศึกษาต่อระดับสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เพียงปิดกั้นอนาคตของเด็กและเยาวชน แต่ยังเป็นอุปสรรคที่ฉุดรังการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยะยาว

              เมื่อเร็วๆนี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับยูนิเซฟ สหภาพยุโรป (EU) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)  จัดการประชุมเพื่อเผยแพร่รายงาน การพัฒนาทุนมนุษย์ ในประเทศไทย  การศึกษาทางเลือกช่องว่าง อุปสรรค และทางเลือกเชิงนโยบาย

ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึงทีดีอาร์ไอ เปิดเผยว่าการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศต่างๆถือว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาก เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกันระหว่างการพัฒนาทุนมนุษย์กับผลิตภาพแรงงาน (productivity) และการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้หลายประเทศที่สามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้เนื่องจากมีการลงทุนในทุนมนุษย์อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากหลายประเทศที่ประชากรมีระดับการศึกษาเฉลี่ยขั้นต่ำในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายนั้นสามารถที่จะหลุดพ้นจากการเป็นประเทศกับดักรายได้ปานกลางได้ เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะมีประชากรที่จบการศึกษาระดับม.ปลาย ประมาณ 70% ของประชากรทั้งหมด ส่วนของประเทศไทยนั้นมีประชากรที่จบการศึกษาระดับ ม.ปลายประมาณ 40% เท่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยยังไม่สามารถหลุดพ้นจากกับดักปานกลางได้

              นอกจากนั้นการพัฒนาทุนมนุษย์ยังเชื่อมโยงกับการมีปัจจัยเชิงสถาบันที่แข็งแรง โดยพบว่าในประเทศที่มีการพัฒนาทุนมนุษย์ที่ดีจะทำให้สถาบันทางการเมืองและภาคประชาชนที่เข้มแข็งสามารถที่จะถ่วงดุลกันได้

              นายสมชัย กล่าวต่อว่าจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าในช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีการขยายเศรษฐกิจต่ำได้แก่ในช่วงปี 2003 – 2007 ช่วงปี 2010 – 2019 และช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นช่วงเวลาที่การพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศไทยลดลงเช่นกัน  

ในช่วงที่เราลดงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทุนมนุษย์ลงตามสภาวะเศรษฐกิจ นั้นหลายประเทศในอาเซียนที่เป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจในภูมิภาคของไทย ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม หรืออินโดนิเซีย นั้นไม่ได้ลดงบประมาณในส่วนนี้ลง เมื่อรวมกับจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นของทั้งสองประเทศ ปัจจัยต่างๆสะท้อนให้เห็นว่าอีก 5 ปีข้างหน้าในเรื่องของทรัพยากรมนุษย์นั้นเราจะถูกเวียดนามแซงทั้งในเรื่องของปริมาณและคุณภาพ

ทั้งนี้เรื่องของการพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศไทยนั้นถือว่ามีปัญหาและอุปสรรคในหลายมิติ เช่น ปัญหาของโภชนาการ และสุขอนามัยของเด็กที่พบภาวะแคระแกร็นจำนวนมาก บางส่วนมีพัฒนาการล่าช้า และมีปัญหาเรื่องของการอ่านออกเขียนได้ ขณะที่ปัญหาในการพัฒนาทุนมนุษย์ยังมีมิติเรื่องของความเหลื่อมล้ำ เด็กที่มาจากครอบครัวยากจน หรือครอบครัวแหว่งกลาง จะมีศักยภาพในการพัฒนาทุนมนุษย์ต่ำกว่า

นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กในครอบครัวเปราะบางมีปัญหาเรื่องของการหลุดออกจากระบบการศึกษา และมีปัญหาในเรื่องของความเชื่อมั่นใจตัวเองที่เชื่อว่าตนเองจะมีความสามารถและมีสติปัญญาเพียงพอสำหรับการพัฒนาและเติบโต (Growth Mindset) ได้ ซึ่งสะท้อนว่าในเรื่องนี้รัฐบาลต้องมีการเพิ่มงบประมาณในการดูแลกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งงบประมาณในการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศที่ถือเป็นการลงทุนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ    

เปิด 5 ข้อเสนอเชิงยุทธศาสตร์ 

ในรายงานฉบับนี้มีข้อเสนอเชิงยุธศาสตร์ ในการรับมือกับความท้าทาย และพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศไทยให้เต็มศักยภาพ ดังนี้

1.ขยายระบบคุ้มครองทางสังคมที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ยกระดับความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อลดอุปสรรคทางเศรษฐกิจในการศึกษาและการฝึกอบรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อย โดยให้ความสำคัญกับทั้งค่าใช้จ่ายโดยตรง และต้นทุนค่าเสียโอกาส

2.ออกแบบบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนทุกคน พัฒนาระบบการศึกษาและการฝึกอบรมให้รองรับคนพิการผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาโทยเป็นภาษาหลัก และผู้ที่มีการะดูแลบุคคลอื่น โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การเรียนการสอนแบบยึดหนุ่นใต้ และการให้บริการสนับสนุนเฉพาะกลุ่ม

3.ปฏิรูปการจัดสรรทรัพยากรเพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและประสิทธิภาพ ปรับระบบจัดสรรรบประมาณให้มีความยืดหยุ่น และตั้งอยู่บนหลักความจำเป็น โดยให้ความสำคัญกับสถาบันที่ให้บริการแก่ผู้เรียนที่เสียเปรียบ เพื่อให้ทรัพยากรถูกส่งไปยังพื้นที่ที่ที่ต้องการมากที่สุด

4.หลักสูตรการศึกษาและการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ส่งเสริมการศึกษาแบบเน้นสมรรถนะ (Competency-based education) และการฝึกทักษะที่ขับเคลื่อนโดยความต้องการของตลาด ผ่านความร่วมมือ และการบูรณาการทักษะพื้นฐานและทักษะถ่ายโอน

และ 5.แก้ไขอุปสรรคทางจิตสังคมใช้แนวทางแบบองค์รวมที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง สร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เอื้ออำนาย และร้างแรงจูงใจ บูรณาการการเรียนรู้ทางสังคมและอารมณ์ ขยายบริการสุขภาพจิต และเสริมสร้างระบบแนะแนวอาชีพที่มีคุณภาพ