พาณิชย์จัดถุงยังชีพช่วยประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

“จตุพร-ฉันทวิชญ์” นำทีม พาณิชย์จัดถุงยังชีพ กว่า 1,000 ชุด ส่งมอบให้ประชานในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บรรเทาความเดือดร้อน พร้อมเน้นย้ำ 4 มาตรการดูแลผู้ประกอบการ เกษตรกร และประชาชน
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ มีความห่วงใยในปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยในวันนี้ตนและนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกันจัดถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค และของใช้อุปโภคบริโภคที่จำเป็น จำนวนกว่า 1,000 ชุด เพื่อนำไปส่งมอบให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด ติดตามและ กำกับดูแล การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้มีปริมาณเพียงพอและราคายุติธรรม “สินค้าห้ามขาด ห้ามแพง” ไม่ฉวยโอกาสโดยเด็ดขาด หากพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือสินค้ามีราคาแพงผิดปกติขอให้แจ้งข้อมูลมาที่กระทรวงพาณิชย์สายด่วน 1569 หรือที่พาณิชย์จังหวัด
โดยกระทรวงมี 4 มาตรการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไทย–กัมพูชา สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบชายแดน ได้สั่งการไปยังพาณิชย์จังหวัดทั้ง 7 จังหวัด ที่มีชายแดนติดกับกัมพูชา ให้เข้มงวดดูแลสินค้าห้ามขาด ห้ามแพง เพื่อป้องกันการขาดแคลนและฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า พร้อมจัดหาสินค้าจำเป็นเข้าไปเสริมโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เสริมความแข็งแกร่งเศรษฐกิจในประเทศ ประกอบด้วย
1. กำกับดูแลราคาและปริมาณสินค้า จากการลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าชายแดนและศูนย์พักพิงทุกจังหวัดพบว่าสินค้ายังพอเพียงไม่มีการปรับขึ้นราคาเกินสมควร มีสินค้าบางอย่างที่มีความต้องการมากกว่าปกติในช่วงนี้ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ยาทาสเปรย์กันยุง ผ้าอ้อมเด็ก/ผู้ใหญ่ ได้สั่งการให้เติมสินค้าและวางแผนบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดงาน ”ธงฟ้าราคาประหยัด” เพื่อช่วยลดค่าของชีพให้แก่ประชาชน
2. เชื่อมโยงตลาดและจัดหาช่องทางการจำหน่ายสินค้า ได้มีการจัดกิจกรรม Thai fruits festival 2025 อย่างต่อเนื่องเพื่อกระจายผลผลิตผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น สายการบินหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และผ่านบริการของไปรษณีย์ไทยฟรี ในเดือนส.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์เปิดจุดจำหน่ายเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ประกอบการมีช่องทางจำหน่ายสินค้าพร้อมนำผู้ประกอบการเข้าร่วมมหกรรมการค้าชายแดนที่จังหวัดสตูลในวันที่ 7-10 สิงหาคม 2568 ในด้านโลจิสติกส์มีการประสานงานให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาขนส่งทางเลือกเพื่อเลี่ยงด่านชายแดนที่ปิด
3. ส่งเสริมสินค้าไทยในกัมพูชาและตลาดทางเลือก กระทรวงพาณิชย์ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยในหลายรูปแบบตามสถานการณ์ เช่น การจัดจับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ การหารือกับเครือข่ายผู้นำเข้าสินค้ารวมทั้งห้างสรรพสินค้า และมีแผนจัดแสดงสินค้าเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยในกัมพูชาขณะเดียวกันก็ผลักดันกันหาตลาดใหม่ประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียนด้วย
4. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ กระทรวงพาณิชย์ได้ประสาน SME D Bank และ EXIM Bank เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้นำเข้าสินค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น การพักชำระหนี้ การเสริมทุนหมุนเวียน และให้เงินกู้ระยะยาว
“กระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิดและขอเป็นกำลังใจ พร้อมอยู่เคียงข้างประชาชน เราจะบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยประชาชนให้รอดพ้นภาวะนี้ไปให้ได้” นายจตุพร กล่าว







