เปิดเกณฑ์ใหม่ 'เงินทดรองราชการ' รับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

เปิดเกณฑ์ใหม่ 'เงินทดรองราชการ' รับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

“รัฐบาล” อนุมัติเพิ่มเงินทดรองราชการ 7 จังหวัด ชายแดนจังหวัดละ 100 ล้าน พร้อมปรับเพิ่มวงเงินให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งให้จัดซื้อจัดจ้างพิเศษในส่วนที่จำเป็นได้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีการเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบจากชายสถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา ในเรื่องนี้กระทรวงการคลัง ได้อนุมัติการขยายวงเงินทดรองราชการในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ จังหวัดตราด จังหวัดจันทบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี เพิ่มเป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาทโดยทันที รวมทั้ง เมื่อมีมาตรการอะไรที่ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้างอย่างรวดเร็วสามารถดำเนินการได้เลยโดยใช้วิธีการพิเศษได้ 

นอกจากนี้ยังปรับเพิ่มวงเงินทดรองราชการฯ ของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

  • สำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหม จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท 
  • สำนักงานปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
  • สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.จังหวัด) จากแห่งละ 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ให้ปลัดกระทรวงกลาโหมมีอำนาจจัดสรรเงินทดรองราชการของ สป.กห. ให้แก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม  และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจจัดสรรเงินทดรองราชการของ ปภ.จังหวัด แก่อำเภอหรือกิ่งอำเภอ ตามความจำเป็น และเหมาะสม จากเดิมแต่ละแห่งต้องไม่เกิน 5 แสนบาท เป็นแต่ละแห่งต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท และต้องแจ้งให้กระทรวงการคลัง ทราบด้วย

ทั้งนี้ การปรับเพิ่มวงเงินดังกล่าวเป็นไปเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน

ส่วนมาตรการเยียวยาได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ซึ่งรัฐบาลได้มีการประเมินไว้แล้วว่าในเหตุการณ์นี้มีประชาชนได้มีการอพยพกว่า 1.6 แสนคน ซึ่งต้องดูว่าจะเตรียมมาตรการดูแลอย่างไร เพราะในจำนวนนี้มีผู้อพยพที่ไม่ได้ทำงานในช่วงนี้รายได้ก็จะหายไปจึงต้องมีมาตรการชดเชยที่เหมาะสม 

"ประเมินเบื้องต้นว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งสัปดาห์อยู่ที่ราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของผลกระทบที่เกิดขึ้น"