รู้จักดินในมือ! พด. หนุนใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service เสริมพลังเกษตรกรยุคใหม่

รู้จักดินในมือ! พด. หนุนใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service เสริมพลังเกษตรกรยุคใหม่

กรมพัฒนาที่ดิน แนะเกษตรกรยุคใหม่ ใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตร แปลผล รู้สูตรปุ๋ยที่เหมาะสมกับพืชและสภาพดินในแปลง

ดร.ปิ่นเพชร ดีล้อม ผู้อำนวยการสำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน (พด.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เดินหน้ายกระดับการให้บริการวิเคราะห์ดินสู่มือเกษตรกร ผ่านนวัตกรรม Test Kit ชุดตรวจสอบดินภาคสนาม ที่ครอบคลุมการวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ธาตุอาหารหลัก (N-P-K) และค่าการนำไฟฟ้า (EC) เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลคุณสมบัติดินได้ด้วยตนเองอย่างสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุน และใช้ประโยชน์จากผลวิเคราะห์ได้ทันที ด้วยการเชื่อมต่อกับ ระบบ e-Service ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตร ของกรมพัฒนาที่ดิน เพื่อแปลผลและแนะนำสูตรปุ๋ยที่เหมาะสมกับพืชและสภาพดินในแปลง

รู้จักดินในมือ! พด. หนุนใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service เสริมพลังเกษตรกรยุคใหม่

สำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน (สวด.) มุ่งวิจัยและพัฒนาชุดตรวจสอบดินภาคสนาม ครอบคลุมการประเมินสมบัติดินทั้งด้านเคมี กายภาพ และชีวภาพ ชุด Test Kit ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในการประเมินสมบัติดินเบื้องต้น ประกอบด้วย 3 ชุดหลัก ดังนี้

ชุดตรวจสอบความเป็นกรด-ด่างของดิน (pH Test Kit) เป็นผลงานของ นายรัตนชาติ ช่วยบุดดา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์วิจัยดินทางเคมี นางสาวประไพพิศ ศรีมาวงษ์ และ นางสาวชนิดา เกิดชนะ ได้พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 และได้รับอนุสิทธิบัตร จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ ธันวาคม พ.ศ.2562

ชุดตรวจสอบธาตุอาหารหลัก (N-P-K) พัฒนาโดย นายสุรเชษฐ์ นาราภัทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยสิ่งแวดล้อมดิน นายสุทธิ์เดชา ขุนทอง นางกมรินทร์ นิ่มนวลรัตน์ และนายชัยสิทธิ์ วัฒนาวังจงสุข

ชุดตรวจสอบค่าการนำไฟฟ้า (EC) พัฒนาโดย นายสุรชัย พัฒนพิบูล และนายจิราวุฒิ เวียงวงษ์งาม

รู้จักดินในมือ! พด. หนุนใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service เสริมพลังเกษตรกรยุคใหม่

รู้จักดินในมือ! พด. หนุนใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service เสริมพลังเกษตรกรยุคใหม่

ทั้งนี้ ชุด Test Kit ดังกล่าว ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ภายใต้ โครงการหมอดินตรวจดิน และการบริหารจัดการดินเชิงรุก (บัตรดินดี) ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรทุกจังหวัดกว่า 1,040,250 ไร่ภายในปี 2568

สำหรับขั้นตอนการใช้งาน ชุดตรวจสอบดินภาคสนาม เกษตรกรสามารถตรวจวัดค่าดินเบื้องต้นได้ด้วยตนเองในไร่นา การใช้งานเข้าใจง่าย ใช้เวลาไม่นาน เมื่อได้ผลการตรวจแล้ว เช่น ค่า pH, ค่าธาตุอาหารหลัก (N P K) หรือค่า EC สามารถกรอกข้อมูลลงใน ระบบ e-Service ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตร ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของกรมพัฒนาที่ดิน ระบบจะทำการแปลผลและแนะนำสูตรปุ๋ยอัตโนมัติ ช่วยให้การใส่ปุ๋ยแม่นยำ ตรงตามความต้องการของพืช และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นชุด Test Kit เหล่านี้ถูกนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2554 โดยเฉพาะใน โครงการหมอดินตรวจดิน และ โครงการบริหารจัดการดินเชิงรุก (บัตรดินดี) ซึ่งในปี 2568 คาดว่าจะครอบคลุมพื้นที่เกษตรกว่า 1,040,250 ไร่ ทั่วประเทศ

รู้จักดินในมือ! พด. หนุนใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service เสริมพลังเกษตรกรยุคใหม่

ขั้นตอนการใช้ pH Test Kit ภาคสนาม เกษตรกรสามารถใช้ชุดทดสอบ pH ดินได้ด้วยตนเองอย่างง่ายดาย โดยมีขั้นตอนดังนี้:

1) เก็บตัวอย่างดิน จากบริเวณแปลงเพาะปลูกที่ต้องการตรวจวัด ลึกประมาณ 0–15 ซม. จำนวนประมาณ 1 ช้อนชา

2) ใส่ดินลงในถาดหลุม ประมาณครึ่งหลุม

3) หยดน้ำยาทดสอบ ลงไปบนดินจนดินชุ่มหรืออิ่มตัวด้วยน้ำ

4) ตบผงทำให้เกิดสีลงไปบนดินที่อิ่มตัวด้วยน้ำ ผงจะดูดซับสีให้เห็นชัดเจนขึ้น

5) เปรียบเทียบสีที่ปรากฏบนผงดูดซับสีกับแผ่นเทียบสีมาตรฐาน อ่านค่าภายใน 3 นาที แล้วแปลผล

ผลการตรวจวิเคราะห์ดินเบื้องต้น หากพบว่าค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของดินอยู่ในช่วงที่เป็นกรด ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ไม่เต็มที่ และเสี่ยงต่อการสะสมของธาตุโลหะหนักบางชนิด ควรดำเนินการปรับปรุงค่าความเป็นกรด-ด่างให้ใกล้เคียงสภาพกลาง (pH ประมาณ 6.5–7.0) ปรับสภาพดินให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืช โดยการใส่วัสดุปูน เช่น ปูนโดโลไมต์หรือปูนมาร์ล ในปริมาณที่เหมาะสมกับระดับความเป็นกรดของดิน ทั้งนี้ ควรพิจารณาร่วมกับชนิดของพืชที่จะปลูก และปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินเพื่อคำนวณอัตราการใช้ปูนที่เหมาะสม การปรับปรุงดินอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์จะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างดิน เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ และส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างยั่งยืน

รู้จักดินในมือ! พด. หนุนใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service เสริมพลังเกษตรกรยุคใหม่

นอกจากนี้ เกษตรกรสามารถนำค่า N, P, K ที่ได้จากชุด Test Kit ดังกล่าวไปกรอกในระบบ e-Service ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตร ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของกรมพัฒนาที่ดิน ระบบจะช่วยแปลผล พร้อมแนะนำ สูตรปุ๋ยที่เหมาะสม ได้ทันที เพื่อการจัดการปุ๋ยที่แม่นยำและคุ้มค่า ตรงตามความต้องการของพืช ที่ระบบคำนวณปุ๋ย https://osd101.ldd.go.th/search_fertilizer.php

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า “Test Kit ของกรมพัฒนาที่ดิน เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรรู้จักดินของตนเองได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาส่งดินไปวิเคราะห์ถึงห้องปฏิบัติการ และสามารถใช้ผลตรวจร่วมกับระบบ e-Service ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตร เพื่อแปลผลและรับคำแนะนำได้ทันที ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และดูแลสิ่งแวดล้อมได้จริง”

ชุด Test Kit ของกรมพัฒนาที่ดิน เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลดินของตนเองได้สะดวกและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องรอผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงผลการตรวจวิเคราะห์เข้ากับระบบ e-Service เพื่อแปลผลและรับคำแนะนำการจัดการดินได้ทันที ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย และส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

รู้จักดินในมือ! พด. หนุนใช้ Test Kit คู่ระบบ e-Service เสริมพลังเกษตรกรยุคใหม่

ดร.ปิ่นเพชร ดีล้อม ผู้อำนวยการสำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “สวด. ได้รับนโยบายจากผู้บริหารและมุ่งพัฒนานวัตกรรมต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรไทยมีเครื่องมือใช้จัดการดินได้อย่างยั่งยืน และในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีชุดตรวจสอบสมบัติดินเพิ่มเติม เช่น ชุดตรวจสอบการหายใจของดินอย่างง่าย เพื่อสะท้อนสุขภาพดินในเชิงชีวภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำเกษตรอย่างยั่งยืน”

เกษตรกรที่สนใจสามารถขอรับบริการชุดตรวจสอบดินภาคสนามได้ที่ สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด หรือ หมอดินอาสาใกล้บ้าน ที่เข้าร่วมโครงการบริหารจัดการดินเชิงรุก (บัตรดินดี) หรือ โครงการหมอดินตรวจดิน ของกรมพัฒนาที่ดิน