ส่องเศรษฐกิจมาเลเซียไตรมาส 2 ฟื้น คาดทั้งปีโตจีดีพีโตแตะ 5 %

เศรษฐกิจมาเลเซียไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 4.5 %จากแรงหนุนของภาคบริการ เซมิคอนดักเตอร์ การบริโภค และการท่องเที่ยว คาดทั้งปีจีดีพีโต ได้รับแรงขับเคลื่อนจากความต้องการชิปทั่วโลกและการลงทุนในศูนย์ข้อมูล
KEY
POINTS
- เศรษฐกิจมาเลเซียในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ขยายตัว 4.5% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยมีแรงหนุนหลักจากภาคบริการที่เติบโตแข็งแกร่ง
- ธนาคารกลางมาเลเซียคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ตลอดทั้งปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวแตะระดับ 5%
- ปัจจัยบวกสำคัญที่คาดว่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งปี ได้แก่ การลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, การเติบโตของศูนย์ข้อมูล (Data Center) และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
เว็ปไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดเผย ว่า สำนักข่าว The Standard รายงานว่า เศรษฐกิจมาเลเซียเติบโตเกินความคาดหมายในไตรมาส 2/2568 โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 4.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4.4 % ในไตรมาสแรก และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.2 %
การขยายตัวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากภายนอก โดยเฉพาะการที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีใหม่ โดยมีแผนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากมาเลเซียในอัตรา 25 % ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ส.ค.นี้
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้รับแรงหนุนหลักจาก ภาคบริการ ที่เติบโตถึง 5.3 % โดยเฉพาะธุรกิจค้าส่งค้าปลีก การขนส่ง และคลังสินค้า ขณะที่ภาคเกษตรกลับมาเติบโต 2 % จากแรงส่งของปาล์มน้ำมัน ยางพารา และปศุสัตว์ ส่วนภาคการผลิตขยายตัวชะลอลงเหลือ 3.8 %
ขณะที่ภาคเหมืองแร่และพลังงานยังหดตัวหนัก-7.4 % โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัว 5.9 % แบบปีต่อปี และเติบโต 2.9 % แบบไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งเป็นครั้งที่สองในปีนี้ที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าประมาณการล่วงหน้า
ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ประเมินว่าเศรษฐกิจทั้งปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ ระดับสูงสุดของช่วงคาดการณ์ที่ 5% สะท้อนแรงขับเคลื่อนจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะ การลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, การเติบโตของ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ได้รับแรงผลักจากเทคโนโลยี AI และการฟื้นตัวของ ภาคการท่องเที่ยว ที่รายได้จากนักท่องเที่ยวในช่วง 6 เดือนแรกแซงหน้าระดับก่อนโควิด-19 แล้ว ขณะที่รัฐบาลยังเดินหน้าแผนผลักดันประเทศให้เป็นศูนย์กลางการออกแบบชิปในภูมิภาคอาเซียน
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย ส่งผลให้การขนส่งสินค้าไปจีนลดลงในเดือนมิ.ย. และอาจกระทบการส่งออกของประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี
นอกจากนี้ แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลยกเลิกการอุดหนุนราคาดีเซลบางส่วนในเดือนมิ.ยและเปลี่ยนไปใช้มาตรการช่วยเหลือแบบกำหนดเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางเชื่อว่าผลกระทบอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและโอกาสจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยี มาเลเซียยังคงรักษาบทบาทในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจและการผลิตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมั่นคง
ทั้งนี้สคต.กรุงกัวลาลัมเปอร์ วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 4.5 %จากแรงหนุนของภาคบริการ เซมิคอนดักเตอร์ การบริโภค และการท่องเที่ยว ธนาคารกลางมาเลเซียคาด GDP ทั้งปีอาจแตะ 5 % โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากความต้องการชิปทั่วโลกและการลงทุนในศูนย์ข้อมูล
ขณะเดียวกันการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวฟื้นเกินระดับก่อนโควิด และการลงทุนจากต่างชาติในเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มาเลเซียยังมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางออกแบบชิปของภูมิภาค ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อไทยในด้านการส่งออกวัตถุดิบ บริการ และโอกาสในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีระหว่างประเทศ
สำนักงานฯ เห็นว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจมาเลเซียในไตรมาส 2/2568 ที่เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะแรงหนุนจากภาคบริการ การบริโภคภาคเอกชน อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และการท่องเที่ยว ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณบวกต่อการค้าการลงทุนในภูมิภาค
ในมุมของไทย สำนักงานฯ เห็นว่าการเติบโตของมาเลเซียจะช่วยกระตุ้นความต้องการนำเข้าสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนเทคโนโลยี ผู้ประกอบการไทยควรติดตามแนวโน้มดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับตัวให้ทันกับโอกาสที่อาจเกิดขึ้นจากบทบาทที่ขยายตัวของมาเลเซียในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของอาเซียน







