เปิดแผนการบินไทยซื้อ 'โบอิง' เพิ่มแต้มต่อไทยเจรจาภาษีสหรัฐ

นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณี การบินไทย บรรลุข้อตกลงร่วมกับ บริษัท โบอิ้ง และ บริษัท จีอี แอโรสเปซ เพื่อจัดหาเครื่องบินโบอิง 787 Dreamliner ลำใหม่ จำนวน 45 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ GEnx รวมทั้งสิทธิในการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมสูงสุดรวมเป็น 80 ลำ โดยขณะนี้ได้ทำข้อตกลงจัดหาไปแล้ว จำนวน 45 ลำ และยังเหลือสิทธิในการจัดหาเพิ่มเติมอยู่ประมาณ 35 ลำ ซึ่งสิทธิในการจัดหาเพิ่มเติมนี้ เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ทีมไทยแลนด์ได้นำไปเจรจาต่อรองภาษีสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ภายหลังการบินไทยปรับโครงสร้างทุน และภาครัฐได้เพิ่มทุน จนปัจจุบันถือหุ้นช่วยสนับสนุนความเข้มแข็งของการบินไทย ซึ่งทำให้ตอนนี้ภาครัฐถือหุ้น 38% นับว่าช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้การบินไทย โดยการที่ภาครัฐเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของการบินไทย หลังจากพิจารณาแผนดำเนินธุรกิจแล้วเชื่อว่าจะสามารถเดินหน้าได้อย่างเข้มแข็ง และจากนี้ยังไม่เห็นสัญญาณลบอะไรที่น่ากังวล เรื่องเศรษฐกิจ และราคาน้ำมันเป็นเพียงความเสี่ยงระยะสั้น ซึ่งการบินไทยได้วางแผนรับมือในการหารายได้ส่วนอื่นไว้แล้ว

“ในนามของคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ มีเป้าหมายสนับสนุนให้การบินไทยก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการเป็นสายการบินที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ และธรรมาภิบาลในการบริหารงานแบบองค์กรเอกชน ยืนยันว่าจะไม่มีการนำองค์กรกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ”

สำหรับแผนจัดหาเครื่องบินใหม่ 80 ลำนั้น การบินไทยได้ทำข้อตกลงจัดหาไปแล้วจำนวน 45 ลำ เป็นเครื่องบินโบอิง 787 Dreamliner ติดตั้งเครื่องยนต์ GEnx มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะช่วยให้การบินไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ.2593 โดยจะเข้าประจำการในฝูงบินภายใต้กรอบระยะเวลา 10 ปี จะเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป

ส่วน สิทธิในการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมอีก 35 ลำ ข้อตกลงดังกล่าวมีเงื่อนไขที่ให้ความยืดหยุ่นในการเลือกแบบเครื่องบินต่างๆ ในตระกูล Dreamliner เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่แตกต่างกัน รวมถึงทางเลือกในการปรับเปลี่ยนแบบเครื่องบินบางส่วนเป็นโบอิง 777X เครื่องบินลำตัวกว้างรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับพิสัยการบิน ความจุผู้โดยสาร และสมรรถนะขั้นสูงสุด

สำหรับ ปัจจุบันทำการปรับลดฝูงบินเหลือ 6 แบบรวม 79 ลำ และจะทยอยปรับลดต่อเนื่องในปี 2572 คาดเหลือ 5 แบบรวม 143 ลำ และท้ายที่สุดในปี 2576 จะเหลือ 4 แบบรวม 150 ลำ แบ่งเป็น เครื่องบินลำตัวกว้าง 98 ลำ และลำตัวแคบ 52 ลำ โดยมีประเภทเครื่องบิน ประกอบด้วย

• โบอิง B777-300ER จำนวน 15 ลำ
• แอร์บัส A350 จำนวน 17 ลำ
• โบอิงตระกูล B787 จำนวน 66 ลำ
• แอร์บัส A320/A321 NEO จำนวน 52 ลำ

โดยในช่วงระยะ 5 ปี ระหว่างปี 2567 – 2571 การบินไทยวางแผนทยอยรับมอบเครื่องบินเพิ่มเติมมากกว่า 80 ลำ ประกอบด้วย

• ธ.ค.2567 - ส.ค.2568 ทยอยรับมอบแอร์บัส A320 ติดตั้งที่นั่งชั้นธุรกิจ (Business class) จำนวน 20 ลำ
• พ.ย.2568 - ส.ค.2571 ทยอยรับมอบแอร์บัส A321neo รวมจำนวน 32 ลำ
• ก.พ.2569 - พ.ค.2569 ทยอยรับมอบ โบอิง 787-9 จำนวน 4 ลำ
• พ.ค.2570 - พ.ค.2571 ทยอยรับมอบ โบอิง 777-300 ER จำนวน 14 ลำ
• ก.ค.2570 เป็นต้นไป ทยอยรับมอบ โบอิง 787-10 จำนวน 12 - 18 ลำ

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์