"คลัง" สั่ง 7 แบงก์รัฐ ออกมาตรการด่วน เยียวยาเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา

"คลัง" สั่งการ 7 แบงก์รัฐ อัดฉีดมาตรการด่วน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทั้งพักชำระหนี้ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ฟื้นฟูธุรกิจ
นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจากเหตุปะทะกันระหว่างกำลังความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และขยายวงกว้างไปสู่ภาคเศรษฐกิจและสังคมในระดับชุมชนโดยรอบ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากรัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนนี้และให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนในพื้นที่โดยเร่งด่วน
ในเบื้องต้น รัฐบาลได้มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ดำเนินมาตรการด้านการเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบคลุมทั้งมาตรการพักชำระหนี้ มาตรการลดอัตราดอกเบี้ย และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน โดยมีสาระสำคัญจากแต่ละสถาบันการเงิน ดังนี้
ออมสิน พักหนี้ถึงสิ้นปี
ธนาคารออมสิน จัดทำมาตรการช่วยเหลือ ประกอบด้วย
1.ให้พักชำระเงินต้น พักชำระเงินต้นสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจนถึงงวดเดือนธ.ค. 2568 และให้จ่ายดอกเบี้ยเพียงบางส่วน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย
2.สินเชื่อเพื่อรายย่อย 2 โครงการ
- สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือสำหรับประชาชนรายย่อย ผ่อน 12 เดือน ปลอดชำระ 3 เดือนแรก ดอกเบี้ย 0.60% ต่อเดือน (คงที่)
- สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพสำหรับประชาชนรายย่อย ผ่อน 60 เดือน ดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน (คงที่)
3.สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ SMEs: วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ยปีที่ 1 = MLR – 2.65% ปีที่ 2 เป็นต้นไป = MLR ยกเว้นค่าธรรมเนียม Front End Fee และ Prepayment Fee ผู้สนใจติดต่อ ธนาคารออมสิน ทุกสาขา หรือเว็บไซต์ธนาคารฯ
ธ.ก.ส.ออก 2 มาตรการ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เตรียม 2 มาตรการ ได้แก่
1.สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2568 วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน 6.725% ต่อปี) ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี ปลอดชำระดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก
2.สินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต สำหรับซ่อมแซมบ้านเรือน ทรัพย์สิน เครื่องมือการเกษตร วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ดอกเบี้ย MRR – 2% ต่อปี ระยะเวลากู้ไม่เกิน 15 ปี
ธอส. เตรียมวงเงิน 200 ล้าน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เตรียมวงเงินโครงการ 200 ล้านบาท
1.กรณีผู้กู้บาดเจ็บสาหัส/ที่อยู่อาศัยเสียหาย อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปีแรก
2.กรณีผู้กู้ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง/เสียชีวิต/ที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลัง อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
3.กรณีกู้เพื่อปลูกสร้างอาคารใหม่ทดแทน อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 6 เดือนแรก และ 0.50% ต่อปี ในเดือนที่ 7-12
ยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2567
SME D Bank
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ด้วยแนวคิด "พัก ลด ขยาย เติม"
- พัก ชำระเงินต้น
- ลด ค่างวดการชำระ
- ขยาย ระยะเวลาการชำระหนี้
- เติม ทุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โครงการสินเชื่อปลุกพลัง SME และสินเชื่อ Beyond ติดปีก SME ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี3 ปีแรก ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี
สินเชื่อ SME Refinance ลดต้นทุนธุรกิจ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% ต่อปี
EXIM Bank
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ออกมาตรการบรรเทาผลกระทบเร่งด่วน ขยายเวลาชำระหนี้สูงสุด 365 วัน, ลดดอกเบี้ยสูงสุด 20%, เพิ่มวงเงินชั่วคราว 1 ปี สูงสุด 30% ด้วยดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% ต่อปี
และมาตรการเสริมสภาพคล่องและลดต้นทุนทางการเงิน
-เงินทุนหมุนเวียนเพื่อออกงานแสดงสินค้า (EXIM-DITP Empower Financing) ดอกเบี้ย 6.15% ต่อปี
-เงินทุนหมุนเวียนก่อนและหลังการส่งออก (EXIM Export Booster) ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.99% ต่อปี
-เงินทุนหมุนเวียนหลังการส่งออกพร้อมประกันการส่งออก (EXIM Safe Trade) ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.99% ต่อปี พร้อมการชดเชยหากไม่ได้รับชำระค่าสินค้า
-Export Credit Insurance ยกเว้นค่าวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับผู้เอาประกัน 5 ราย
-สินเชื่อระยะยาวร่วมกับสำนักงานประกันสังคม ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2% ต่อปี 3 ปี
-สินเชื่อระยะยาวเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต (Transformation Loan) ดอกเบี้ยเฉลี่ยสำหรับ SMEs 5.68% ต่อปี
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)
มาตรการไอแบงก์เราไม่ทิ้งกัน ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ประกอบด้วย
1.พักชำระเงินต้นและกำไร กำหนดอัตรากำไรตามสัญญาเดิม สูงสุด 6 เดือน ขยายได้ไม่เกิน 12 เดือน หรือไม่เกินค่างวดชำระเดิม
2.ให้วงเงินเพิ่มเพื่อซ่อมแซม ฟื้นฟู
-สินเชื่อเพื่ออยู่อาศัย อัตรากำไรเริ่มต้น 1.99% ปีแรก วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท กู้สูงสุด 20 ปี
-สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ อัตรากำไรเริ่มต้น 3.25% ปีแรก วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท กู้สูงสุด 5 ปี
บสย. พักค่าธรรมเนียม 6 เดือน
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เตรียมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และลูกค้าเดิมของ บสย. ให้ผ่อนผันชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกันและค่าจัดการค้ำประกัน พักไปอีก 6 เดือน และพักชำระค่างวด 3 เดือน
มาตรการเสริมสภาพคล่องภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” แบ่งเป็น
- SMEs Power Trade & Biz วงเงินค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันต่อราย 500,000 – 10 ล้านบาท
- SMEs Micro Biz วงเงินค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันต่อราย 10,000 – 500,000 บาท ตอบโจทย์ Micro SMEs ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน แต่ขาดคนค้ำประกันและขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน
กระทรวงการคลังให้ความสำคัญกับการยรรเทาผลกระทบในพื้นที่ โดยมุ่งช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เพียงพอในการดำรงชีวิต ประกอบอาชีพ และฟื้นฟูกิจการได้อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนทั่วไปในพื้นที่
รวมถึงสามารถช่วยลดภาระต้นทุน เสริมสภาพคล่อง และสนับสนุนการปรับปรุง ซ่อมแซม หรือฟื้นฟูทรัพย์สิน เช่น อาคาร โรงงาน และเครื่องจักร ให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถขอรับความช่วยเหลือผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- ธนาคารออมสิน: โทร. 02 299 800 หรือสายด่วน 1115
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร: โทร. 02 555 0555
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์: โทร. 02 645 9000
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย: โทร. 02 265 3000 หรือสายด่วน 1357
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย: โทร. 02 169 9999
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย: โทร. 02 650 6999 หรือสายด่วน 1302
- บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม: โทร. 02 890 9999







