SME D Bank เดินกลยุทธ์เสริมแกร่ง SME แก้จุดอ่อน รับมือเศรษฐกิจผันผวน

SME D Bank เผยกลยุทธ์ใหม่เสริมแกร่ง SME มุ่งแก้ไขจุดอ่อนด้านการเงิน เทคโนโลยี และการตลาด ชูสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนแก้หนี้ รับมือเศรษฐกิจผันผวน
นายพิชิต มิตราวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) กล่าวภายในงาน “Thailand Smart SME 2025: Smart Solutions & Sustainable Growth” จัดโดยโพสต์ทูเดย์ ในหัวข้อ “Smart Financial Solutions” เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2568 ว่า การเข้าถึงแหล่งทุนและการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในมิติต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ SME ยังคงเปราะบางจากผลกระทบต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงโควิด-19 และภัยพิบัติต่างๆ เช่น อุทกภัย
นายพิชิต กล่าวว่า ความท้าทายที่ SME ไทยกำลังเผชิญ โดยเฉพาะปัญหาการเข้าไม่ถึงแหล่งทุน ซึ่งไม่ได้มาจากปัญหาข้อมูลเครดิตเพียงอย่างเดียว จากการสำรวจผู้ประกอบการกว่า 9,000 รายผ่านโมดูล Business Health Check ของ SME D Bank พบว่า SME โดยเฉพาะกลุ่ม Micro SME (รายเล็ก) มีข้อจำกัดสำคัญใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
1.การบริหารจัดการเงิน Micro SME มักไม่ให้ความสำคัญกับเอกสารทางการเงิน ทำให้มีข้อจำกัดในการกู้สินเชื่อกับธนาคาร ส่วน SME ขนาดกลางก็มักขาดระบบบัญชีที่ถูกต้องและโปร่งใส
2.นวัตกรรมหรือเทคโนโลยี Micro SME มักไม่รู้ว่าจะนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างไร SME ขนาดเล็กอาจรู้แต่ไม่ต้องการลงทุน ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยังสร้างวัฒนธรรมการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เข้มข้นเท่าที่ควร
3.การตลาด การขายแบบ On-site มีข้อจำกัดมากในปัจจุบัน SME หลายรายยังมีข้อจำกัดเรื่องการขายออนไลน์
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ SME D Bank จึงพัฒนา DX Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกและมุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของ SME นอกเหนือจากการเข้าถึงแหล่งทุน โดยมีโมดูลสำคัญประกอบด้วย
Business Health Check ช่วยให้ SME ตรวจสอบสถานะทางธุรกิจของตนเอง ประมวลผลเพื่อระบุข้อจำกัดที่แท้จริง
การเรียนรู้และพัฒนา (Knowledge & Development) เมื่อทราบข้อจำกัดแล้ว SME สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ทันทีผ่าน e-learning จากมหาวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญ (Gurus) รวมถึงบริการ SME Coach ที่ให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว หรือเข้าร่วมเวิร์คช็อป เช่น การสอนทำ TikTok และการจัดทำบัญชี
การเข้าถึงตลาด (Market Access) ช่วย SME ขายสินค้าจริง โดยสอนวิธีการทำ Data, การจัดการข้อมูลหลังบ้าน, การปักตะกร้า และการบริหารจัดการเมื่อมีการขาย
นายพิชิต กล่าวว่า เชื่อว่าเมื่อ SME ได้รับการเติมเต็มความรู้และพัฒนาศักยภาพแล้ว การเข้าถึงแหล่งทุนก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะสถาบันการเงินอื่นๆ ก็พร้อมอ้าแขนรับผู้ประกอบการที่มีความรู้ความเข้าใจ ขณะเดียวกัน SME ต้องปรับตัว ยกระดับ และเปลี่ยนแปลง หากไม่ทำเช่นนั้นก็จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือ SME ที่มีภาระหนี้เดิม ผ่าน โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐบาลร่วมกันออกมา เพื่อช่วย SME ในการแก้ไขปัญหาหนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถชำระหนี้เพียง 50% ของยอดหนี้ โดยส่วนที่ชำระจะถูกนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด และพักดอกเบี้ยไว้ ทำให้ SME มีภาระเบาลง
นอกจากนี้ SME D Bank ยังมีสินเชื่อ Soft Loan ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ช่วยเหลือ SME โดยมี 3 โครงการ สำหรับ SME ทุกระดับตั้งแต่ Micro SME จนถึง Medium SME
โครงการ "ปลุกพลัง SME" สำหรับลูกค้า SME ที่มีรายได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3% คงที่ 3 ปี ให้วงเงินสูงสุดถึง 10 ปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยใช้ บสย. (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม) ค้ำประกันเต็มจำนวน
สินเชื่อ SME D Green Productivity เหมาะสำหรับลูกค้า SME ทุกระดับที่ต้องการลงทุนในพลังงานสะอาด เช่น การติดตั้ง Solar Rooftop หรือการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่ม Productivity อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3% คงที่ 3 ปี เช่นกัน ให้วงเงินสูงสุดถึง 10 ล้านบาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน โดยใช้ บสย. ค้ำประกันเต็มจำนวน
สินเชื่อสำหรับ SME ขนาดกลางขึ้นไป สำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 2 ล้านบาท ให้สินเชื่อสูงสุดถึง 15 ล้านบาทต่อราย ช่วยผ่อนปรนภาระดอกเบี้ย







