"ทีมไทยแลนด์" ยังเดินหน้าเจรจาภาษี หวังดีลดีที่สุด เตรียมกระสุนรับมือ 4.5 หมื่นล้าน

"ทีมไทยแลนด์" ยังเดินหน้าเจรจาภาษี หวังดีลดีที่สุด เตรียมกระสุนรับมือ 4.5 หมื่นล้าน

“ปลัดคลัง” เผยทีมไทยแลนด์ทำงานอย่างหนักมุ่งรักษาผลประโยชน์ไทย แม้มีอำนาจต่อรองจำกัด ระบุรัฐบาลเตรียมงบกว่า 45,000 ล้านบาท พร้อมมาตรการการเงิน รับมือผลกระทบ หลังประกาศภาษี 1 ส.ค.

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐว่า การทำงานของทีมไทยแลนด์ยังคงไม่จบซึ่งไม่ใช่เรื่องไม่ดีเสมอไป การเจรจาที่เสร็จเร็วแต่ได้ข้อเสนอที่ไม่ดีนั้นไม่เสร็จดีกว่า ดังนั้น ทีมไทยแลนด์จึงใช้เวลาที่มีอยู่จนถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้อย่างเต็มที่

"เราทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยเป้าหมายคือการพยายามรักษาสถานะของเราให้เป็น win-win situation แม้จะทราบดีว่าอำนาจการต่อรองของไทยเล็กมาก เมื่อเจรจากับคู่ค้าที่เป็นบิ๊กเบิ้มของโลกใบนี้ สิ่งที่ทีมเจรจามุ่งมั่นคือ หากต้องเสียเปรียบ ก็ขอให้เป็นการเสียเปรียบที่น้อยที่สุด" 

นายลวรณ กล่าวต่อว่า การเจรจายังคงอยู่ในชั้นความลับและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยทีมเจรจาเพิ่งตอบข้อเสนออันใหม่เข้าไปอีก และหากข้อเสนอไม่ดีก็จะเอากลับมาปรับปรุงใหม่อยู่เสมอ มีการปรับไปปรับมา ต่อรอง อันนี้ให้ อันนี้ให้ได้บ้าง อันนี้ไม่ให้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ไทยได้ดีลที่ดีที่สุด โดยประเมินว่าอัตราภาษีที่ไทยจะถูกจัดเก็บน่าจะ เทียบเคียงกับประเทศในภูมิภาคและ คงไม่แตกต่างกันมากนัก

นอกจากนี้ หลังจากการเปิดตลาดให้สหรัฐประเทศไทยจะต้องกลับมาทำการบ้านข้างในประเทศเราเยอะ โดยเฉพาะการเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น ภาคการส่งออกที่อาจยากขึ้นและมีต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การแข่งขันสูงขึ้นอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมกระสุนหรือมาตรการเยียวยาไว้รองรับผลกระทบเหล่านี้ ประกอบด้วย งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เหลืออยู่กว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทันที และงบประมาณเพิ่มเติมอีก 25,000 ล้านบาท ที่จะจัดสรรให้ในปีงบประมาณ 2569

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการทางการเงินอื่นๆ จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ซอฟต์โลน 100,000 ล้านบาท จากธนาคารออมสิน และการค้ำประกันสินเชื่อโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) วงเงิน 50,000 ล้านบาท