ไทม์ไลน์กฎหมายคมนาคม 3 ฉบับ ลุ้นแหล่งเงินหนุนรถไฟฟ้า 20 บาท

ไทม์ไลน์กฎหมายคมนาคม 3 ฉบับ ลุ้นแหล่งเงินหนุนรถไฟฟ้า 20 บาท

มาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายถือเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะช่วยลดค่าครองชีพในการเดินทางให้ประชาชน

อีกทั้ง ยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียม มีความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯ เตรียมความพร้อมผลักดันนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาท” โดยจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิมาตรการดังกล่าวผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ใน

วันที่ 25 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป ซึ่งมั่นใจว่าการลงทะเบียนดังกล่าว ระบบจะไม่ล่ม เนื่องจากจะใช้รูปแบบคล้ายกับการเปิดให้ลงทะเบียนนโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่มีผู้ลงกว่า 18 ล้านคน แต่ระบบสามารถรองรับได้

อีกทั้ง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สามารถทยอยลงทะเบียนรับสิทธิ ทุกคนได้สิทธิ์อย่างเท่าเทียม และการลงทะเบียนไม่มีวันหมดอายุ เพื่อรองรับการใช้นโยบายดังกล่าวที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป ครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล จำนวน 8 สาย รวม 13 เส้นทาง ทั้งสิ้น 194 สถานี ระยะทางรวม 276.84 กิโลเมตร

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ประเมินว่าเมื่อเปิดใช้มาตรการดังกล่าวแล้ว อัตราผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% เป็นประโยชน์ในการประหยัดงบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากการประเมิน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ประเมินจากการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ ด้านสังคม ประเมินจากค่าความสุข และการลดมูลค่าความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ และด้านสิ่งแวดล้อม ประเมินจากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

อย่างไรก็ดี ประชาชนที่สนใจรับสิทธิมาตรการดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ทั้งระบบ iOS และ Android โดยมีเงื่อนไขของการรับสิทธิกำหนดว่า จะต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย ลงทะเบียนผ่านการระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่ลงทะเบียน) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้าซึ่งบัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิการใช้มาตรการโดยอัตโนมัติ หากไม่ลงทะเบียน จะต้องจ่ายค่าโดยสารในอัตราปกติ

ส่วนการใช้บริการ มาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในระยะแรก จะใช้รูปแบบบัตร Rabbit Card สามารถใช้บริการได้ 4 สาย คือ สายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless (Visa/Mastercard) ตามเงื่อนไขธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการที่กำหนด สามารถใช้บริการได้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (ARL)

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น หากประชาชนผู้ใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าข้ามสาย จะต้องถือบัตร 2 ใบ แต่ชำระค่าโดยสารเพียง 20 บาทตลอดสายเท่านั้น ส่วนในระยะต่อไปจะนำเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมเข้ามาใช้ในการพัฒนาระบบ อาทิ การสแกนจ่ายด้วย QR CODE สแกนจ่ายค่าโดยสาร เพื่อเพิ่มความสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

      นายสุริยะ กล่าวอีกว่า กระบวนการที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ การผลักดันข้อกฎหมายที่จะนำมาขับเคลื่อนนโยบายนี้ โดยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพราะจะต้องเข้ามากำหนดเกี่ยวกับเงินกองทุนที่ชดเชยค่าโดยสาร ที่จะมีการนำเงินรายได้สะสมของ รฟม.มาเข้าในกองทุนนี้อีกทั้งยังมี  ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ....

ที่จะต้องพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดว่าส่วนของ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม น่าจะมีการเสนอโหวตวาระ 2 ในการประชุมสภาฯ วันที่ 7 ส.ค.2568 ซึ่งระหว่างนี้กระทรวงฯ ได้เตรียมความพร้อมเรื่องการลงทะเบียนให้ประชาชนรับสิทธิไว้แล้ว ดังนั้นยืนยันว่าประชาชนจะต้องได้ใช้ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสายตามเป้าหมาย

“การพิจารณา พ.ร.บ.ต่างๆ ที่จะนำมาขับเคลื่อนนโยบายนี้ ก็เดินหน้าไปตามกระบวนการ แต่ในส่วนของการเตรียมความพร้อมให้ประชาชนได้ใช้นโยบายนี้ กระทรวงฯ ได้ดำเนินการพร้อมแล้ว หาก พ.ร.บ. ,รฟม. และ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมไม่สามารถพิจารณาแล้วเสร็จทัน กระทรวงฯ มีแนวทางสำรองในการจัดใช้แหล่งเงินอื่น อาทิ การเสนอของบกลาง เพื่อมาชดเชยส่วนต่างค่าโดยสาร ซึ่งจะคำนวณตามค่าโดยสารที่เกิดขึ้นจริง”

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568  และผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 31 พ.ค. 2568  ปัจจุบันอยู่ในขั้น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาฯ หากแล้วเสร็จ จะนำเสนอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป

สำหรับ ความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2568 มีมติเอกฉันท์รับหลักการ  และเมื่อ 23 เม.ย. 2568 กรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ... ประชุมครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นการรับรองรายงานและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการแล้ว ทำให้กฎหมายฉบับนี้จะกลับเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาในวาระ 2-3 ภายหลังการเปิดสมัยประชุมในเดือนก.ค.ต่อไป  ก่อนที่จะมีการพิจารณาของวุฒิสภา

        สำหรับ ความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... นั้น เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติเห็นชอบ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอผ่านการพิจารณาจากสภาฯแล้ว และ ผ่านชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาฯ แล้วเมื่อการประชุมครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2568  ปัจจุบันรอเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ภายในเมื่อการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเสร็จสิ้น จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของวุฒิสภาทั้ง 3 วาระ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ คาดว่าพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... จะประกาศใช้ในปลายปี 2568

ไทม์ไลน์กฎหมายคมนาคม 3 ฉบับ ลุ้นแหล่งเงินหนุนรถไฟฟ้า 20 บาท