สหรัฐ รุกไทยลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีเพิ่ม

“ฉันทวิชญ์” รมช.พาณิชย์ เผยวงเจรจาภาษีทรัมป์ สหรัฐจี้ไทย ลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีมากขึ้น ยันไทยลดมาตรการกีดกันสอดคล้องรายงานประเมินการค้าสหรัฐจากการกีดกันของคู่ค้าปี 68 ย้ำไม่ว่าไทยตกลงอะไร ต้องขอความเห็นชอบจากสภาก่อน
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐ ว่า ประเด็นหนึ่งที่สหรัฐให้ความสำคัญมาก และเรียกร้องจากไทย คือ ขอให้ไทยลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี (NTB) ให้มากขึ้น ซึ่งตนไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นเรื่องของทีมไทยแลนด์ที่จะเจรจา แต่ไทยได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมที่จะลดมาตรการกีดกันให้กับสหรัฐไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าไทยจะตกลงอะไรกับสหรัฐ จะต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภาก่อน เพราะจะต้องเป็นการลงนามความตกลงร่วมกับสหรัฐ ซึ่งมีผลผูกพันกับประเทศในระยะยาว และมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวข้องจำนวนมาก
ส่วนกรณีที่มีโอกาสจะกลับมาทบทวนรายละเอียดของสิ่งที่ได้ตกลงไปแล้วหรือไม่ มองว่า อาจต้องรอให้พ้นสมัยของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไปก่อน หรือหากสหรัฐ มีรัฐบาลใหม่ และเห็นว่า ความตกลงนี้เป็นประโยชน์กับสหรัฐ ก็อาจไม่ทบทวน เหมือนที่นายโจ ไบเดน รับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากทรัมป์สมัยแรก ก็ยังดำเนินตามนโยบายของทรัมป์ในหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่ว่าจะมีภาษีทรัมป์หรือไม่ ไทยจำเป็นต้องปรับตัวอยู่แล้ว เพื่อให้ยืนอยู่บนโลกยุคใหม่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างแข็งแกร่ง
นายฉันทวิชญ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐ ได้อนุมัติคำขอฉุกเฉินของรัฐบาลทรัมป์ หลังจากได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลการค้าระหว่างประเทศ (CIT) ที่ได้สั่งระงับใช้มาตรการภาษี และภาษีตอบโต้ไปก่อนหน้านี้ เพราะการใช้อำนาจของประธานาธิบดีในการขึ้นภาษีนำเข้า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ผ่านการรับรองของรัฐสภา โดยศาลอุทธรณ์ให้คงมาตรการภาษี รวมถึงภาษีตอบโต้ ชั่วคราวจนกว่าศาลอุทธรณ์พิจารณาเสร็จ ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 6-18 เดือนนั้น มองว่า หากศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ยกเลิกมาตรการภาษี ฝ่ายบริหารก็ต้องยื่นศาลสูงสุดต่ออยู่ดี แต่อาจมีแนวโน้มที่ศาลอุทธรณ์ให้คงมาตรการไว้ได้เหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลดใช้มาตรการกีดกันทางการค้า ที่ไทยได้เสนอให้สหรัฐนั้น สอดคล้องกับสิ่งที่สหรัฐระบุไว้ในรายงานการประเมินการค้าสหรัฐภายใต้การกีดกันการค้าของประเทศคู่ค้าปี 68 (2025 National Trade Estimate Report on FOREIGN TRADE BARRIERS : 2025 NTE Report ) ที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ได้เผยแพร่เมื่อเดือนมี.ค.68
ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้แทนการค้าสหรัฐ ustr.gov พบว่า ภายใต้รายงานดังกล่าว USTR แบ่งประเด็นของไทยเป็น 7 ประเด็น ได้แก่
1.นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ไทยเก็บภาษี MFN (ภาษีที่เก็บจากชาติที่ได้รับการอนุเคราะห์ยิ่ง) เฉลี่ยปี 66 ที่ 9.8% แต่ภาษี MFN สินค้าเกษตร 27% และสินค้าที่ไม่ใช่เกษตร 7.1% ส่วนอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีนั้น ไทยห้ามนำเข้า/จำกัดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ อีกทั้งหลายสินค้าต้องได้รับใบอนุญาตนำเข้า เช่น ไม้ ปิโตรเลียม เครื่องจักรอุตสาหกรรม สิ่งทอ ยา เครื่องสำอาง อาหาร รวมถึงสินค้าเกษตร เช่น พืช เมล็ดพันธุ์ เนื้อสัตว์แปรรูป เกลือ ขณะที่บางสินค้าต้องเสียค่าธรรมเนียมนำเข้า เช่น เนื้อสัตว์ปรุงสุก และไม่ปรุงสุกทุกประเภท และหลายสินค้ามีมาตรการโควตาภาษี เช่น กาแฟ ชา มันฝรั่ง ข้าวโพด ถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง
2.อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า/อุปสรรคจากมาตรการสุขอนามัย และสุขอนามัยพืช ซึ่งมีการใช้มาตรการในหลายสินค้า ทำให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าสู่ตลาดไทย เช่น ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เนื้อวัว และผลิตภัณฑ์จากเนื้อวัว เนื้อหมู สัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปใหม่ 3.การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา แม้ไทยได้รับการคงสถานะอยู่ในกลุ่มประเทศถูกจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา (WL) แต่สหรัฐยังคงกังวลในหลายเรื่อง เช่น ละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ มีองค์กรบริหารจัดการลิขสิทธิ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ใช้ซอฟต์แวร์ไม่ได้รับอนุญาต
4.อุปสรรคด้านเทคนิค โดยในสาขาบริการการเงิน มีข้อจำกัดในการออกใบอนุญาตสำหรับสาขาและบริษัทย่อยของธนาคารจากต่างประเทศ, สาขาบริการประกันภัย ธุรกิจต่างชาติถูกจำกัดการถือครองหุ้นไม่เกิน 49% 5.อุปสรรคด้านการค้าอี-คอมเมิร์ซ/การค้าดิจิทัล สหรัฐกังวลพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2550 ที่ให้อำนาจภาครัฐควบคุมเนื้อหาออนไลน์กว้างขวางจนเกินไป และอาจกระทบต่อเนื้อหาที่ชอบด้วยกฎหมาย และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
6.อุปสรรคด้านการลงทุน พ.ร.บ.การประกอบการธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 กำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติไม่เกิน 50% ในหลายธุรกิจบริการ เช่น โทรคมนาคม ขนส่ง การดำเนินกิจกรรมด้านทรัสต์ ธุรกิจธนาคาร การแสวงหาผลประโยชน์จากที่ดินหรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น และบางวิชาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทย 7.แรงงาน ไทยไม่ได้ดำเนินมาตรการเพื่อให้แรงงานได้รับสิทธิแรงงานในระดับสากล โดยเฉพาะเสรีภาพในการรวมกลุ่ม ส่งผลให้สหรัฐตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ไทยบางส่วนตั้งแต่เดือนเม.ย.63 จนถึงปัจจุบัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







