“จตุพร–ฉันทวิชญ์” นำทีมพาณิชย์เยือนสหรัฐฯ ดันสินค้าไทยไปตลาดสหรัฐเพิ่ม

“จตุพร–ฉันทวิชญ์” นำทีมพาณิชย์เยือนสหรัฐฯ ดันสินค้าไทยไปตลาดสหรัฐเพิ่ม

“จตุพร”ควง” ฉันทวิชญ์” นำทีมผู้บริหารระดับสูงเยือนสหรัฐ สำรวจโมเดลร้าน Eataly ที่นิวยอร์ก ต่อยอดแนวคิดเปิดร้านสินค้าไทยในต่างประเทศ พร้อม ถกผู้บริหาร Clark Associates Inc. บริษัทจำหน่ายสินค้า Food Service อันดับหนึ่งอเมริกา เร่งผลักดันนำเข้าสินค้าไทยเพิ่ม

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า  ตนพร้อมด้วยนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินทางเยือนนครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. 2568 โดยได้ลงพื้นที่สำรวจร้าน “Eataly” ใจกลางนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พร้อมกับนางสาวเกษสุรีย์ วิจารณกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

ร้าน“Eataly” เป็นต้นแบบร้านค้าสมัยใหม่จากอิตาลีที่ผสมผสานระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม ร้านอาหาร และคาเฟ่ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยมีจุดเด่นที่การจัดพื้นที่ให้ครบครัน ทั้งโซนของสด อาหารแห้ง ขนม อาหารพร้อมรับประทาน และไวน์นำเข้าจากหลากหลายภูมิภาค รวมถึงบริการร้านอาหารและคาเฟ่ในตัว ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสรสชาติและบรรยากาศ ก่อนตัดสินใจซื้อกลับบ้าน

“โมเดลของร้านไม่ใช่แค่ร้านค้า แต่คือประสบการณ์ ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมกับสินค้า ผ่านการชิม ลองใช้ และเรียนรู้วัฒนธรรมอาหาร ซึ่งสามารถต่อยอดกับสินค้าของไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม สมุนไพร และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่มีศักยภาพในตลาดโลก” นายจตุพรกล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญที่ตนมอบให้กับกระทรวงพาณิชย์ คือการผลักดันการส่งออกสินค้าไทย ขยายตลาด เพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคในต่างประเทศ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ผ่านประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมไทย เพื่อเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการ SME ไทยสามารถยืนหยัดและรับมือกับความผันผวนของการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“จตุพร–ฉันทวิชญ์” นำทีมพาณิชย์เยือนสหรัฐฯ ดันสินค้าไทยไปตลาดสหรัฐเพิ่ม

ทั้งนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางพัฒนาโมเดลร้านค้ารูปแบบนี้ให้เหมาะสมกับบริบทของสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการซื้อขาย แต่รวมถึงการถ่ายทอดเรื่องราว เอกลักษณ์ และคุณค่าของสินค้าไทย เพื่อสร้างความประทับใจและความผูกพันระยะยาวกับผู้บริโภคต่างชาติ หากสามารถต่อยอดแนวทางดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการส่งออกของไทย สร้างภาพลักษณ์สินค้าไทยให้แข็งแกร่งในระดับสากล และขยายตลาดได้อย่างมั่นคง

นายจตุพร กล่าวว่า  นอกจากนี้ยังได้เข้าพบหารือกับ Mrs. Nipa Kim Senior Global Sourcing Manager บริษัท Clark Associates Inc. ณ นครนิวยอร์ก ซึ่งบริษัท Clark Associates Inc. ถือเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งในสหรัฐฯ ในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องใช้สำหรับอุตสาหกรรม Food Service

โดยกระทรวงพาณิชย์ได้รับทราบความต้องการของบริษัทในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล (Database) ภาครัฐให้ภาคเอกชนจับคู่ธุรกิจง่ายขึ้น ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงมาตรการทางการค้าทั่วโลกถือเป็นโอกาสที่ภาคธุรกิจไทยจะได้ปรับโครงสร้างให้สามารถแข่งขันได้

ในปีที่ผ่านมา บริษัท Clark Associates Inc. มีมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากไทยถึง 628 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นหลัก 1,100 ล้านดอลลาร์ในอนาคต โดยสินค้าหลักของบริษัทฯ ได้แก่ ตู้แช่เชิงพาณิชย์ เครื่องทำความเย็น เตาอบ ไมโครเวฟ ชั้นวางอาหาร ถุงมือแพทย์ กล่องอาหาร แก้วน้ำ แก้วไวน์ โต๊ะกลางแจ้ง และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและส่งออกได้อย่างมีคุณภาพ

“จตุพร–ฉันทวิชญ์” นำทีมพาณิชย์เยือนสหรัฐฯ ดันสินค้าไทยไปตลาดสหรัฐเพิ่ม

โดยในการหารือในครั้งนี้ มีสาระสำคัญครอบคลุม 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.แสดงความพร้อมของประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตที่มีศักยภาพสูง โดยเน้นย้ำถึงความสามารถของผู้ผลิตไทยในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐานสากล โดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์

2.เชิญชวนผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเยี่ยมชมโรงงานผลิตของผู้ประกอบการไทย และเข้าร่วมกิจกรรม Business Matching โดยมีภาครัฐไทยพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่

3.แลกเปลี่ยนข้อมูลแนวโน้มความต้องการของตลาดสหรัฐฯ ให้ผู้ผลิตไทยสามารถพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม

4.หารือแนวทางลดอุปสรรคทางการค้าและโลจิสติกส์ อาทิ มาตรการทางภาษี มาตรฐานสินค้า และกระบวนการทางศุลกากร พร้อมรับฟังข้อคิดเห็นจากบริษัทฯ และเสนอให้ภาครัฐไทยหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยกันอำนวยความสะดวก เพื่อให้การนำเข้าสินค้าจากไทยเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

“การหารือกับบริษัท Clark Associates Inc.ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการขับเคลื่อนการส่งออก ขยายตลาดเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ และเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ให้เพิ่มมากขึ้นโดยอาศัยความร่วมมือกับภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพ ช่วงเวลานี้เราต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่อย่างทันท่วงที เพื่อผลักดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดอเมริกาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน”นายจตุพร กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท Clark Associates Inc. เป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการอาหารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 1971 โดย Glenn และ Lloyd Clark ที่เมือง Hatville รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนจะขยายธุรกิจเข้าสู่การติดตั้งและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ครัว และเติบโตอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Lancaster รัฐเพนซิลเวเนีย มียอดขายรวมกว่า 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100,000 ล้านบาท มีสินค้าเกือบ 500,000 รายการ (SKUs) และมีพนักงานกว่า 8,200 คน โดยลูกค้าสำคัญของบริษัท ได้แก่ Disney, Marriott Hotel, Starbucks, Subway และ Chick-fil-A เป็นต้น