BTS ร่วม 'รถไฟฟ้า 20 บาท' คมนาคมพร้อมชดเชยรายได้ทุกการเดินทาง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสาย โดยระบุว่า ขณะนี้กระทรวงฯ ยังคงเป้าหมายจะดำเนินการนโยบายดังกล่าวเริ่มในวันที่ 1 ต.ค.68 นี้ ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ภายในเดือนส.ค.นี้

อย่างไรก็ดี กระบวนการที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ การผลักดันข้อกฎหมายที่จะนำมาขับเคลื่อนนโยบายนี้ โดยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพราะจะต้องเข้ามากำหนดเกี่ยวกับเงินกองทุนที่ชดเชยค่าโดยสาร ที่จะมีการนำเงินรายได้สะสมของ รฟม.มาเข้าในกองทุนนี้

อีกทั้งยังมี พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางราง และ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ที่จะต้องพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดว่าส่วนของ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมน่าจะมีการเสนอโหวตวาระ 2 ในการประชุมสภาฯ วันที่ 7 ส.ค.68 นี้ ซึ่งระหว่างนี้กระทรวงฯ ได้เตรียมความพร้อมเรื่องการลงทะเบียนให้ประชาชนรับสิทธิไว้แล้ว ดังนั้นยืนยันว่าประชาชนจะต้องได้ใช้ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสายตามเป้าหมาย

“การพิจารณา พ.ร.บ.ต่างๆ ที่จะนำมาขับเคลื่อนนโยบายนี้ ก็เดินหน้าไปตามกระบวนการ แต่ในส่วนของการเตรียมความพร้อมให้ประชาชนได้ใช้นโยบายนี้ กระทรวงฯ ได้ดำเนินการพร้อมแล้ว หาก พ.ร.บ. , รฟม. และ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมไม่สามารถพิจารณาแล้วเสร็จทัน กระทรวงฯ มีแนวทางสำรองในการจัดใช้แหล่งเงินอื่น อาทิ การเสนอของบกลาง เพื่อมาชดเชยส่วนต่างค่าโดยสาร ซึ่งจะคำนวณตามค่าโดยสารที่เกิดขึ้นจริง”

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.68 ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้หารือร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และตัวแทนจากกลุ่มบีทีเอส ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เกี่ยวกับการพิจารณาเงินชดเชยค่าโดยสารกรณีนำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าร่วมนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท จากที่ก่อนหน้านี้ทาง กทม.ออกมาระบุว่ากระทรวงฯ ประเมินตัวเลขชดเชยสายสีเชียว และสายสีทอง เสนอ ครม.จำนวน 2,525 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อย และทาง กทม.ประเมินต้องใช้ราว 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้จากการหารือร่วมทั้ง 3 ฝ่าย ได้เข้าใจข้อมูลตรงกันแล้วว่า ภาครัฐพร้อมจะชดเชยส่วนของค่าโดยสารที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด กรณีที่ผู้โดยสารเดินทางเข้าระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีทองในจำนวนเท่าไร ภาครัฐก็พร้อมชดเชยส่วนต่างค่าโดยสาร ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม.ที่ได้อนุมัติ และมีข้อสั่งการให้ชดเชยค่าโดยสารที่เกิดขึ้นตามจริงทั้งหมด และผลจากการหารือร่วม 3 ฝ่าย กทม.พร้อมสนับสนุนในการขับเคลื่อนนโยบายนี้

“ตัวเลขประมาณการชดเชยค่าโดยสารที่เสนอ ครม.ไปก่อนหน้านี้รวมประมาณ 5,512 ล้านบาท เป็นเพียงกรอบการประเมินการจัดใช้งบประมาณ ซึ่งทาง ครม.ได้เห็นชอบ และสั่งการให้ชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการจริง โดยกระทรวงฯ ยืนยันว่าเมื่อกฎหมายผ่านการพิจารณาจากสภาฯ ก็จะสามารถจัดใช้เงินสะสม รฟม.มาชดเชยส่วนนี้ และประเมินแล้วว่าเพียงพอต่อการขับเคลื่อนนโยบาย 2 ปีตามเป้าหมาย ก่อนจะจัดตั้งกองทุนเพื่อซื้อคืนรถไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้รัฐไม่ต้องเยียวยาส่วนต่างค่าโดยสารแล้ว”

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรณีตัวเลขประมาณการชดเชยค่าโดยสาร 20 บาท ส่วนของรถไฟฟ้า กทม. ที่กระทรวงฯ เสนอไปประมาณ 2,525 ล้านบาท เป็นการคำนวณมาจากปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการในปัจจุบัน โดยในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ประเมินผู้โดยสารที่ใช้บริการ ช่วงหมอชิต - แบริ่ง ประมาณ 700,000 คนต่อวัน และส่วนต่อขยายสายสีเขียวอีกประมาณ 200,000 คนต่อวัน

ในขณะที่ตัวเลขประมาณการของ กทม.คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ จำนวน 11,059 ล้านบาท ทราบว่าคำนวณจากฐานภาระงานโครงสร้าง งานโยธา งานระบบการเดินรถ งานจ้างเดินรถ และซ่อมบำรุงตามสัญญา ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีที่มีการถ่ายโอนเจ้าของจาก กทม.มาเป็นของรัฐ เป็นคนละกรณีกับการชดเชยรายได้ส่วนต่างที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ซึ่งจากการหารือร่วม 3 ฝ่ายครั้งนี้ ได้เข้าใจข้อมูลตรงกัน และมีความพร้อมผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นตามเป้าหมาย

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์