แก้สัญญาไฮสปีดเทรน CP งานหินวัดเสถียรภาพรัฐบาล 'แพทองธาร'

การแก้สัญญาร่วมทุนรถไฟความเร็วสูง CP ยังไม่สรุปหลังดำเนินการมาเกือบ 4 ปี รฟท.หวัง ครม.เห็นชอบแก้สัญญาและเริ่มก่อสร้างได้ ก.ย.2568 ท่ามกลางปัญหาเสถียรภาพรัฐบาลที่มีปัญหา ต้องยอมถอยนโยบายเรือธง "สถานบันเทิงครบวงจร"
KEY
POINTS
- การแก้สัญญาร่วมทุนรถไฟความเร็วสูง CP ยังไม่สรุป หลังเดินหน้ากระบวนการแก้มาเกือบ 4 ปี รฟท. ยังลุ้นอัยการสูงสุดตอบกลับไฟเขียวภายในเดือนนี้
- เตรียมชง ครม.เห็นชอบแก้สัญญา หวังเริ่มก่อสร้างได้ ก.ย.2568 ยัน "ซีพี" รับข้อเสนอเร่งสร้างพื้นที่ทับซ้อนไทยจีน ช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง
- จับตา ครม.ชี้ชะตาโครงการนี้ ท่ามกลางเสถียรภาพรัฐบาลที่มีปัญหา ต้องยอมถอยนโยบายเรือธง "สถานบันเทิงครบวงจร"
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งลงนามสัญญาร่วมลงทุนระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทเอเชีย เอราวันจำกัด ที่มีเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ถือหุ้นใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2562 หลังชนะการประมูลและขอรับเงินร่วมลงทุนจากรัฐต่ำสุด 117,226 ล้านบาท ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ในปี 2563 เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ขอให้ภาครัฐออกมาตรการเยียวยาผลกระทบที่ทำให้ผู้โดยสารแอร์พอร์ตเรลลิงก์ลดลง และมีผลต่อประมาณการณ์ผู้โดยสารรถไฟความเร็วสูง โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการเยียวยาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564
การเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนเพื่อเยียวยาให้กับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินของ CP ดำเนินการต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จนเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เห็นชอบแก้ไขสัญญา 5 ประเด็น เมื่อเดือน ต.ค.2567 และส่งร่างสัญญาที่จะแก้ไขให้กลุ่ม CP ให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบก่อนเสนอ กพอ.เห็นชอบ
ทั้งนี้ เดิมมีแผนจะเสนอภายในปี 2567 แต่ต้องสอบถามความเห็นทางกฎหมายกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญถึงการดำเนินงานต้องมีความรอบคอบทางกฎหมาย
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ รฟท.ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2568 ว่า รฟท.รอสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบร่างแก้ไขสัญญาโครงการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปตอบกลับภายในเดือน ก.ค.2568
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า การออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) มีความล่าช้ามาก นับจากที่มีการลงนามสัญญาร่วมลงทุนในเดือน ต.ค.2562 ซึ่ง รฟท.เตรียมพร้อมพื้นที่ก่อสร้างเพื่อไม่ให้โครงการล่าช้ามากขึ้นอีก
ส่วนประเด็นสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้ จะกระทบต่อการแก้ไขร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการนี้หรือไม่นั้น นายอนันต์ กล่าวว่า "ไม่ได้รับผลกระทบ"
นายอนันต์ กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดอาจส่งร่างแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนกับกลุ่ม CP กลับมา รฟท.ภายในเดือน ก.ค.2568 และง รฟท.พร้อมลงนามแก้ไขสัญญาทันทีภายในเดือน ส.ค.2568 อนเริ่มออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) ภายในเดือน ก.ย.2568 จากนั้นจะดำเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จตามแผนเปิดให้บริการภายในปี 2572
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับ CP มาแล้วเกือบ 6 ปี เดิมมีกำหนดเปิดบริการปี 2567 แต่ก่อนที่จะครบกำหนด 2 ปี ของการลงนามสัญญาร่วมลงทุนในเดือน ต.ค.2564 ที่ CP ต้องชำระค่าสิทธิบริหารโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ 10,700 ล้านบาท ได้ยื่นขอรับมาตรการเยียวยาจากรัฐบาล โดยระบุผลกระทบโควิด-19 กระทบต่อจำนวนผู้โดยสารโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
การเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ต.ค.2564 หลังจาก ครม.เห็นชอบให้มีมาตรการเยียวยาให้กับ CP ใช้เวลาเกือบ 4 ปี และมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลไปแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถส่งร่างแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนให้ กพอ.อนุมัติได้
ในขณะที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร อยู่ในช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 จากข้อร้องเรียนประเด็บคลิปเสียงเจรจากับฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และกำหนดให้นายกรัฐมนตรียื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน แต่ น.ส.แพทองธาร ได้ขอเลื่อนการยื่นคำชี้แจงออกไปอีก 15 วัน
ปัจจุบันนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่รักาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายภูมิธรรม เคยทำหน้าที่ประธาน กพอ.เพื่อพิจารณาแก้ไขสัญยาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ของกลุ่ม CP มาก่อน แต่ไม่มีการลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขสัญญาดังกล่าวในรัฐบาลนายเศรษฐา
รวมทั้งเมื่อเข้าสู่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ได้เปลี่ยนประธาน กพอ.เป็นนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเห็นชอบแก้ไขสัญญา 5 ประเด็น เมื่อเดือน ต.ค.2567 ประกอบด้วย
1.วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน (Public Investment Cost : PIC) จากเดิมเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง รัฐจะแบ่งจ่ายเป็นจำนวน 149,650 ล้านบาท ปรับเป็นจ่ายเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงานที่ รฟท.ตรวจรับ วงเงินไม่เกิน 120,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เอกชนต้องวางหลักประกันเพิ่มเติมจากสัญญาเดิม รวมเป็นจำนวน 160,000 ล้านบาท เพื่อรับประกันว่าจะก่อสร้างและเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงได้ภายใน 5 ปี โดยกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างจะทยอยตกเป็นของภาครัฐ (รฟท.) ทันทีตามงวดของการจ่ายเงิน
2.กำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่า ๆ กัน โดยต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญา ในการนี้เอกชนจะต้องวางหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคาร ในมูลค่าเท่ากับค่าสิทธิ ARL รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเงินอื่นที่ รฟท.ต้องรับภาระ
3.กำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทน (Revenue Sharing) เพิ่มเติม หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการฯ ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ และเป็นผลให้เอกชนได้ผลประโยชน์ตอบแทน (IRR) เพิ่มขึ้นเกิน 5.52% รฟท.มีสิทธิเรียกให้เอกชนชําระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้ ตามจำนวนที่จะตกลงกันต่อไป
4.การยกเว้นเงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) โดยให้คู่สัญญาจัดทำบันทึกข้อตกลงยกเว้นเงื่อนไข NTP ที่ยังไม่สำเร็จ เพื่อให้ รฟท.สามารถออก NTP ได้ทันทีเมื่อลงนามสัญญาที่แก้ไขตามหลักการทั้งหมดนี้
5.การป้องกันปัญหาในอนาคต ที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการฯ โดยปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนของเหตุสุดวิสัยและเหตุผ่อนผัน ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการอื่น
สำหรับการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนให้กลุ่ม CP เป็นประเด็นร้อนที่ยืดเยื้อมา 3 รัฐบาล และยังไม่มีความชัดเจนที่กระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ได้ถอยนโยบายและโครงการเรือธงของพรรคเพื่อไทยไปแล้ว ประกอบด้วย
1.โครงการเงินดิจิทัล ที่จะแจกเงินให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป คนละ 10,000 บาท วงเงินรวม 450,000 ล้านบาท ซึ่งได้แจกไปแล้วส่วนหนึ่งในรูปเงินสดเพราะไม่สามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ รวมทั้งมีปัญหาแหล่งเงินงบประมาณ
2.นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ที่ครอบคลุมการออกใบอนุญาตสถานประกอบการกาสิโน โดยรัฐบาลประกาศถอนร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างเหตุผลความเสมาะในการผลักดันกฎหมายในช่วงที่ประเทศกำลังเจอปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งมีการประเมินว่ากฎหมายอาจไม่ผ่านความเห็นชอบในวุฒิสภา
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2568 ว่า สาเหตุที่ต้องถอน พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ได้มาจากว่าห่วงเรื่องเสียงสนับสนุนในสภาฯ จะไม่พอ เพราะขณะนี้เกิดปัญหาหลายมิติขึ้น ทั้งยาเสพติด ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงการชุมนุมมีผู้คัดค้านบนท้องถนนจึงต้องลดโทนลงความขัดแย้งของบ้านเมือง







