ทักษิณ เจรจาภาษีสหรัฐ เผยคุยครอบครัวทรัมป์ เล็งเดินทางดึงลงทุน

ทักษิณ ขยับช่วยเจรจาภาษีสหรัฐ รับคุยกับครอบครัวทรัมป์ เพื่อเพิ่มโอกาสได้คุย แต่จะปิดดีลเท่าไร อยู่ที่เจรจา แย้มหลัง 22 ส.ค.68 คดี 112 จบ จะเดินทางพบนักลงทุนต่างประเทศ
วานนี้(17 ก.ค.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในหัวข้อปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย..สู่อนาคต ในเวทีปลดล็อกอนาคตประเทศไทย ...สู้วิกฤติโลก (Unlocking Thailand’s Future) จัดโดย อสมท.ตอนหนึ่งว่าในเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐ โดยนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าในเรื่องนี้ตนรู้จักกับโดนัลด์ ทรัมป์ แต่การรู้จักกันคือได้พูด แต่ทั้งหมดอยู่ที่ดีลว่าเขาพอใจหรือไม่พอใจ ไม่ใช่ว่ารู้จักกันแล้วต้องลดให้พิเศษ ไม่ใช่การขายของสำเพ็ง
โดยวันที่ตนเข้าไปพูดคุยกับทีมไทยแลนด์ที่บ้านพิษณุโลกที่ผ่านมานั้น มีการพูดคุยกันกับครอบครัวเขา เพราะรู้จักกัน แต่จริงๆ ไม่มีอะไรดีกว่าการไปเจอหน้ากัน
เมื่อถึงช่วงนี้พิธีกร ถามว่า ฉะนั้น ศาลควรอนุญาตให้ท่านเดินทางไปต่างประเทศใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า
“เดี๋ยววันที่ 22 สิงหาคม 2568 นี้ คดีมาตรา 112 ก็จบแล้ว”
และกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากคดีจบแล้วตนจะเดินทางไปเจอกับเพื่อนคนหนึ่งที่เคยขออนุญาตศาลไปเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ศาลไม่อนุญาต โดยเพื่อนคนนี้เป็นนักลงทุนใหญ่ที่มีการลงทุนมากทั่วโลก เฉพาะในสหรัฐคนนี้ลงทุนไป 1.2 พันล้านดอลลาร์ เขาอยากจะเข้ามาลงทุนในฝั่งตะวันออกบ้าง และสนใจในการลงทุนในประเทศไทย
ดังนั้น จะเดินทางไปเพื่อพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน โดยเฉพาะหลายเรื่องที่เมื่อเรามีโครงการขนาดใหญ่แล้วนำเงินต่างประเทศมาลงทุน แล้วไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนผู้ใช้บริการในโอกาสต่อไปมากนัก ตนคิดว่าเม็ดเงินเหล่านี้จะมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นกำลังซื้อคนไทยก็จะดีขึ้น
นายทักษิณ ยังพูดถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐที่ทีมไทยแลนด์กำลังเจรจากับสหรัฐในขณะนี้ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร นั่งกำกับไม่ให้เราเสียเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าเกษตร หรือสินค้าอื่นๆ
ทั้งนี้สินค้าในการเจรจากับสหรัฐจะมีทั้งในเรื่องสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย แล้วส่งไปสหรัฐ และสินค้าที่เป็นสินค้าสหรัฐที่มาตั้งในประเทศไทยมีการใช้เทคโนโลยีแล้วส่งกลับไปที่สหรัฐ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่มีปัญหาแต่ที่มีปัญหา เช่น สินค้าเกษตร เอสเอ็มอี และอัญมณี เรากระทบบ้าง สำหรับการเจรจานั้นก็มองว่าการนำสินค้าจากประเทศอื่นๆ แล้วให้มาแข่งกันเองในประเทศไทยไม่เป็นไร เช่น เนื้อจากออสเตรเลีย มาแข่งกับสหรัฐ หรือที่สหรัฐอยากจะนำรถมอเตอร์ไซค์ฮาเล่ เดวิสันเข้ามาขายก็ไม่เป็นอะไร ทั้งหมดน่าจะเป็นข้อเสนอที่ตกลงใจกันได้
“คำว่าดีลไม่มีจบ ถ้ายังไม่พอใจก็ดีลกันต่อ ประเทศเขาใช้คำว่า Economy เป็นเรื่องเศรษฐกิจ ที่ต้องมีการเจรจากันต่อไปเราหยุดไม่ได้ตรงนี้” นายทักษิณ กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







