สำรวจนโยบายอาเซียนกับ ‘ความเท่าเทียมทางเพศ’ ในธุรกิจ | ASEAN Insight

สำรวจนโยบายอาเซียนกับ ‘ความเท่าเทียมทางเพศ’ ในธุรกิจ | ASEAN Insight

อาเซียนได้พยายามรับมือกับความท้าทายด้านความไม่เท่าเทียมทางเพศ ผ่านกรอบความร่วมมือและนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะการดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการด้านสตรีอาเซียน (ASEAN Committee on Women: ACW) เพื่อสร้างพันธสัญญาร่วมของสมาชิก และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยครอบคลุมทุกมิติของความไม่เท่าเทียมทางเพศด้วย

ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ (Gender Inequality) ที่มักถูกหยิบยกเป็นประเด็น ได้แก่ ความหลากหลาย (Diversity) เพศ (Sex) เพศสภาพ (Gender) และสิทธิมนุษยชน (Human Rights) อย่างไรก็ตาม ความเหลื่อมล้ำทางธุรกิจจากเพศกำเนิด (Biological Sex) ก็เป็นอีกมิติหนึ่งที่สำคัญ

ในทางทฤษฎี การเลือกปฏิบัติตามเพศกำเนิดสามารถอธิบายผ่านมุมมอง “สารัตถนิยม” (Essentialism) หากอ้างอิงคำจำกัดความของ Cambridge Dictionary คือแนวคิดที่เชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ มีแก่นแท้เฉพาะตัวที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

ในเชิงมานุษยวิทยา แนวคิดนี้สะท้อนความเชื่อว่า เพศหญิงและเพศชายมีลักษณะเฉพาะ (Essence) ทางชีวภาพหรือบุคลิกภาพที่แตกต่างกันโดยกำเนิด แนวคิดนี้มักถูกนำมาใช้เป็นฐานในการสร้างแบบแผน และบทบาททางสังคมที่ตายตัว เช่น การมองว่าผู้หญิงเหมาะกับอาชีพแม่บ้าน พยาบาล หรือครู ขณะที่ผู้ชายควรเป็นตำรวจ ทหาร หรือผู้นำ ซึ่งส่งผลให้โอกาสทางการศึกษาและการประกอบอาชีพถูกจำกัดโดยอคติที่ฝังรากลึกในสังคม

จากการสำรวจของ UN Women ปัจจุบันมีเพียง 18 ประเทศที่มีผู้นำที่เป็นผู้หญิง ขณะที่รายงานของธนาคารโลก (World Bank) ชี้ว่า ผู้หญิงที่ดำรงตำแหน่งผู้นำหรือมีบทบาทในระดับบริหาร ยังคงมีสัดส่วนไม่ถึง 30% ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงข้อจำกัดทางโครงสร้างและอคติทางเพศที่ยังมองว่าผู้นำควรเป็นผู้ชาย

ในแวดวงธุรกิจและผู้ประกอบการ ผู้หญิงยังถูกมองผ่านมุมมองแบบสารัตถนิยม เชื่อมโยงกับอคติที่มองว่าบทบาทของผู้ประกอบการหรือผู้นำทางธุรกิจสอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของผู้ชาย มุมมองเช่นนี้ปรากฏอย่างแพร่หลาย รายงานของ OECD ยังพบว่า ผู้หญิงมีแรงจูงใจในการประกอบธุรกิจต่ำกว่าผู้ชาย จากปัจจัย เช่น ทัศนคติทางสังคม อคติในการเข้าถึงเงินทุนและสินเชื่อ และการขาดทักษะที่จำเป็น

สำหรับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีประชากรหญิงกว่าครึ่งหนึ่ง และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง อาเซียนจึงได้พยายามรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ผ่านกรอบความร่วมมือและนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะการดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการด้านสตรีอาเซียน (ASEAN Committee on Women: ACW) ซึ่งได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ผ่าน 7 วิสัยทัศน์หลัก เพื่อสร้างพันธสัญญาร่วมของสมาชิก และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (People-centered ASEAN) วิสัยทัศน์ทั้งเจ็ดนี้ครอบคลุมทุกมิติของความไม่เท่าเทียมทางเพศ โดยยึดแนวคิดเรื่อง การบูรณาการประเด็นด้านความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Mainstreaming) เข้าสู่การกำหนดนโยบายระดับภูมิภาค

แผนดังกล่าวยังตั้งเป้าให้อาเซียนเป็นต้นแบบในฐานะภูมิภาคที่ส่งเสริมสิทธิสตรีและการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของผู้หญิง ซึ่งครอบคลุมการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา การตัดสินใจ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งสะท้อนความพยายามลดช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างเพศของอาเซียน

อาเซียนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) ที่เป็นกำลังหลักทางเศรษฐกิจ คิดเป็น 88.8%- 99.9% และเป็นแหล่งจ้างงานระหว่าง 51.7%-97.2% ในขณะที่อาเซียนมีประชากรหญิงกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากร การส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงในภาคธุรกิจจึงเป็นประเด็นสำคัญ อาเซียนได้จัดทำ Strategic Action Plan for SME Development (2559-2568) ซึ่งรวมมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการหญิง เช่น การพัฒนาทักษะ และสนับสนุนการเข้าถึงแพลตฟอร์มที่จำเป็นเพื่อเพิ่มโอกาสและศักยภาพของผู้หญิงในการมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจ

ทักษะดิจิทัลเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงยังคงเผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึงองค์ความรู้และทักษะหลายประการ แม้ว่าอาเซียนจะเพิ่งประกาศใช้ กรอบยุทธศาสตร์ Gender Mainstreaming Strategic Framework แต่ที่ผ่านมา อาเซียนได้ให้ความสำคัญกับความไม่เท่าเทียมทางเพศมาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักการ Gender Mainstreaming ผ่านนโยบายต่าง ๆ

อาเซียนได้จัดทำ ASEAN ICT Master Plan 2563 เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล โดยให้ความสำคัญกับ Inclusive Digital Economy และส่งเสริมการเข้าถึงทักษะด้าน ICT สำหรับผู้หญิง เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในเศรษฐกิจยุคใหม่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแนวคิด Gender Mainstreaming ได้ถูกนำมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม

เรากำลังเห็นทิศทางที่ดีในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในระดับภูมิภาคผ่านกรอบความร่วมมือ แผนปฏิบัติการต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของอาเซียน ในการสร้างสังคมที่ปราศจากอคติ ส่งเสริมความเสมอภาคทางโอกาส และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ยังจำเป็นต้องได้รับการติดตามและผลักดันอย่างต่อเนื่อง แม้ความตระหนักรู้จะเพิ่มขึ้น แต่การดำเนินนโยบายในทางปฏิบัติยังคงต้องได้รับการตรวจสอบและประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพราะเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ต้องขับเคลื่อนด้วยพลังของทุกคนอย่างไม่แบ่งแยก