ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนจับตาสัญญาณภาวะตลาดตึงตัว

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นวันนี้ หลังจากร่วงลงติดต่อกันสองวัน ขณะที่นักลงทุนประเมินสัญญาณความแข็งแกร่งของตลาดในระยะสั้นก่อนตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นวันนี้ (16 ก.ค.) หลังจากร่วงลงติดต่อกันสองวัน ขณะที่นักลงทุนประเมินสัญญาณความแข็งแกร่งของตลาดในระยะสั้นก่อนตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 69 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI)อยู่ที่ระดับใกล้ 67 ดอลลาร์สหรัฐฯ โครงสร้างตลาดน้ำมันดิบในระยะสั้นยังคงชี้ให้เห็นถึงภาวะตึงตัว ส่วนต่างราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างสัญญาซื้อขายสองสัญญาที่ใกล้หมดอายุเร็วที่สุดนั้น ยังคงอยู่ที่ระดับมากกว่า 90 เซนต์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นรูปแบบที่แสดงให้เห็นว่านักลงทุนจำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้ได้อุปทานที่เร่งด่วนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน การคาดการณ์ของอุตสาหกรรมสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีกำหนดการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ นักลงทุนน่าจะจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันกลั่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมถึงน้ำมันดีเซล โดยคลังสำรองน้ำมันเพิ่งแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2548
ณ ปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคม หลังจากปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ความคืบหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ตลาดจะผันผวนจากความพยายามอย่างแข็งขันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการปฏิรูประบบการค้าโลก รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มโอเปกพลัส เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคาร โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับครึ่งปีแรกนี้ แม้ว่าจะยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังเกี่ยวกับปี 2569 ก็ตาม
“ในระยะใกล้ ความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันดิบยังคงสูงขึ้น” โรเบิร์ต เรนนี หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์และคาร์บอนของเวสต์แพค แบงกิ้ง คอร์ป กล่าว พร้อมเสริมว่า สัญญาณเบื้องต้นบ่งชี้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้งจากการผลิตที่เพิ่มขึ้น “ดังนั้นเราจึงเห็นว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังส่งผลกระทบต่อราคา ทำให้การขึ้นของราคาน้ำมันดิบเบรนท์ถูกจำกัดเมื่ออยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ”
แม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังส่วนใหญ่มาจากตลาดที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าค่อนข้างน้อย ตามข้อมูลของธนาคาร มอร์แกน สแตนลีย์
“เส้นกราฟราคาน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์สยังคงอยู่ในภาวะราคาปัจจุบันสูงกว่าราคาในอนาคต อย่างมั่นคงตลอดช่วงสี่ถึงหกเดือนแรก ซึ่งโครงสร้างนี้มักชี้ให้เห็นถึงภาวะตึงตัวของตลาด” นักวิเคราะห์รวมถึง มาร์ติน แรตส์ กล่าวในบันทึก ซึ่งเน้นย้ำถึงสิ่งที่พวกเขาอธิบายว่าเป็นการกระจายตัวของการเพิ่มขึ้นของคลังน้ำมันที่ไม่เท่ากัน “คลังสำรองเพิ่มขึ้นในแปซิฟิก แต่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ถูกกำหนดในแอตแลนติก” พวกเขากล่าว
อัปเดตราคาเช้านี้
เบรนท์สำหรับการส่งมอบในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.4% มาอยู่ที่ 69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ณ เวลา 8:47 น. ตามเวลาในสิงคโปร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI สำหรับการส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.6% มาอยู่ที่ 66.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล






