ราคาน้ำมันดิบทรงตัว นักลงทุนประเมินแนวโน้มส่งออกน้ำมันรัสเซีย

ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังจากร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาตรการใหม่ทางทหารและภาษีมุ่งขัดขวางการส่งออกพลังงานของมอสโก กดดันปูตินยุติสงคราม
บลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังจากร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ เนื่องจากแผนล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ที่จะกดดันให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียยุติสงครามยูเครน ด้วยการออกมาตรการใหม่ๆ ที่มุ่งขัดขวางการส่งออกพลังงานของมอสโก
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงของสหรัฐฯ ซื้อขายใกล้ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดใกล้ 69 ดอลลาร์ในการซื้อขายก่อนหน้า
ทรัมป์ประกาศเพิ่มการสนับสนุนทางทหารให้แก่ยูเครนเพื่อต่อต้านการรุกรานของมอสโก และขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษี 100% หากการสู้รบไม่ยุติลงภายใน 50 วัน มาตรการที่วางแผนไว้นี้ถือเป็นการคว่ำบาตรทางอ้อมต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ตามที่แมตต์ วิตเทเกอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำนาโต ระบุ โดยอ้างอิงอินเดียและจีนจะได้รับผลกระทบ
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงประมาณ 7% ในปีนี้ ได้รับผลกระทบจากผลกระทบจากสงครามการค้าของทรัมป์ สัญญาณความท้าทายด้านอุปสงค์ในจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มโอเปกพลัส ที่จะผ่อนคลายการควบคุมอุปทาน เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ปัจจัยลบที่ฉุดรั้งความกังวลว่าปริมาณการผลิตอาจเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการบริโภคในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด
อัปเดตราคาเช้านี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนสิงหาคมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 66.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ณ เวลา 7:21 น. ตามเวลาสิงคโปร์
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนกันยายนปิดลดลง 1.6% ที่ 69.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในวันจันทร์ (14 ก.ค.)






