ผ่าแทคติก"จตุพร" รมว.พาณิชย์ แบ่งงานมอบกรมใหญ่ ให้ 2 รมช. ดูแลคนละ 4 กรม

“รมว.พาณิชย์” เซอร์ไพส์ มอบงาน 4 กรมใหญ่ ให้ รมช.พาณิชย์ สุชาติ คุม 4 กรมใหญ่ "ส่งออก ค้าภายใน กรมพัฒน์ อคส." ขณะที่ “ฉันทวิชญ์” ดูแลงานเจรจา –การค้าต่างประเทศ ส่วนเจ้าตัวทำงานดูภาพรวม เน้นการทำงานเป็นทีม
KEY
POINTS
Key Point
- นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ แบ่งงานให้รัฐมนตรีช่วย 2 คน (นายสุชาติ ชมกลิ่น และนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์) ดูแลหน่วยงานในสังกัด
- รมช. แต่ละคนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลหน่วยงานสำคัญคนละ 4 กรม เพื่อขับเคลื่อนงานกระทรวง
- นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้รับมอบหมายกรมหลัก เช่น กรมการค้าภายใน, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- การแบ่งงานครั้งนี้สร้างความประหลาดใจและแตกต่างจากแนวปฏิบัติในอดีตที่ รมว. มักจะกำกับดูแลกรมหลักด้วยตนเอง
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้ากระทรวงอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ร่วมกับนายสุชาติ ชมกลิ่น และนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง
โดยประกาศลุยทำงานเชิงรุก แก้ปากท้องประชาชน เปิดตลาดใหม่ เดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐ พร้อมมอบนโยบายแบ่งงาน “สุชาติ-ฉันทวิชญ์”รับผิดชอบ
โดยกระทรวงพาณิชย์มีหน่วยงานระดับกรมในสังกัด 9 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กรมทรัพย์สินทางปัญญา รัฐวิสาหกิจ 1 หน่วยงาน คือ องค์การคลังสินค้า(อคส.) และองค์การมหาชน 2 หน่วยงาน คือ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน)และสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ทั้งนี้นายจตุพร ได้ลงนามในคำสั่งมอบอำนาจให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 2 คน ดูแลคนละ 4 หน่วยงาน สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ โดย นายสุชาติ ชมกลิ่นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำกับดูแล
1.กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
2กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
3.กรมการค้าภายใน
4.องค์การคลังสินค้า
ขณะที่นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับผิดชอบ
1.กรมการค้าต่างประเทศ
2. กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
3.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)
4.สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน)หรือ ITD
ส่วนหน่วยงานที่เหลือ คือ กรมทรัพย์สินทางปัญญา สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน), และสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สำนักงานรัฐมนตรี และสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เจ้าตัวจะเป็นผู้รับผิดชอบและกำกับดูแลเอง
การแบ่งงานครั้งนี้ของนายจตุพร สร้างความประหลาดใจ ให้กับข้าราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพราะการมอบหมายกรมในสังกัดแตกต่างจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนอื่นๆที่จะต้องกำกับดูแลกรมหลักๆที่ดูแลการค้าระหว่างประเทศหรือการส่งออก และ การค้าภายในประเทศ ซึ่งกรมที่เกี่ยวข้องการกำกับดูแลจะขึ้นตรงกับรัฐมนตรีว่าการฯ แต่นายจตุพร กลับมอบหมายกรมใหญ่ และสำคัญให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการฯทั้ง 2 คน
หากมองในแง่ของการมอบหมายงานถือเป็นอำนาจของเจ้ากระทรวง ซึ่งเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้าปฏิบัติราชการที่กระทรวงพาณิชย์ว่า จะดูภาพรวมงานของกระทรวงพาณิชย์ และจะทำงานเป็นทีม
แต่อย่างไรก็ตามก็ยังสร้างความแปลกใจอยู่ดี โดยเฉพาะการมอบหมาย 4 กรมใหญ่ให้กับนายสุชาติ เหมือนกับว่า คนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการตัวจริงคือ นายสุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งสร้างความพอใจให้กับนายสุชาติหากเปรียบเทียบกับสมัยที่พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พาณิชย์ มอบหมายกรมให้รับผิดชอบ เพียง 3 กรม คือ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD ซึ่งทำให้ช่วงนั้นรมช.สุชาติ แทบจะไม่มีบทบาทเลย
ขณะที่เจ้ากระทรวงกำกับดูแลอยู่ห่างๆ โดยดูในภาพรวมทั้งหมด สามารถที่จะเข้าไปทำงานได้ทุกกรม ถือเป็นการวางแนวทางการทำงานได้อย่างแยบยล และหากเกิดปัญหาใดเกิดขึ้นส่งผลต่อการขับเคลื่อนงานพาณิชย์ คนที่รับผิดชอบไปเต็มๆคือรัฐมนตรีที่ดูแล เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ไม่ค่อยสู้ดี อีกทั้งรัฐบาลเริ่มนับถอยหลังหมดวาระ การดูแลอยู่ห่างๆโดยไม่ต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่า







