เปิดบ้านพิษณุโลก ‘ทักษิณ-พิชัย' รับมือภาษีทรัมป์ เร่งสรุปเยียวยา ยื่นข้อเสนอสหรัฐเพิ่ม

รองนายกฯ "พิชัย" นัดหารือ ทักษิณ-ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก พร้อมออกมาตรการช่วยเกษตร-อุตสาหกรรมรายย่อย เยียวยาผลกระทบภาษีทรัมป์ คาดสรุปแนทาง 14 ก.ค.68 นี้ เล็งยื่นข้อเสนอสหรัฐเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
KEY
POINTS
- 'พิชัย' นำประชุมทีมไทยแลนด์ ร่วม 'ทักษิณ-ที่ปรึกษาของนายกฯ" ที่บ้านพิษณุโลก เพื่อหารือแนวทางเจรจาสหรัฐ
- การเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ โดยไทยมีเวลาทบทวน และยื่นข้อเสนอใหม่ให้สหรัฐ ได้ถึงวันที่ 1 ส.ค.68
- แนวทางการเจรจาเบื้องต้นคือ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ โดยเฉพาะภาคเกษตร และอุตสาหกรรมรายย่อย
วันนี้ (11 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก บ้านพิษณุโลก ระบุว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงผลการประชุมทีมไทยแลนด์ ร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทีมที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงเศรษฐกิจ ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางการรับมือ ภายหลังจากที่สหรัฐส่งจดหมายถึงรัฐบาลไทย ยืนยันจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 36% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2568 เป็นต้นไป โดยการประชุมเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 08:00 น. และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้การเจรจายังไม่บรรลุข้อตกลงสิ้นสุด โดยจดหมายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ส่งมาถือเป็นการเลื่อนเวลาให้กับไทย ซึ่งยังมีเวลาทบทวนข้อเสนอใหม่ถึงวันที่ 1 ส.ค.2568 นี้ โดยในวันนี้ได้มาหารือเพื่อรับทราบรายละเอียดด้านต่างๆ
หลังจากเมื่อวันที่ 10 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ได้หารือกับทางภาคเอกชนแล้ว เกี่ยวกับผลกระทบ และมาตรการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยคาดว่าวันที่ 14 ก.ค.68 นี้ จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแนวทางการรองรับสำหรับแต่ละเซกเตอร์ที่ได้รับผลกระทบ
“เพื่อให้การทำงานภาคเอกชน และภาครัฐดำเนินไปอย่างเรียบร้อย วันนี้จึงได้มาคุยกันเพื่อให้รับทราบข้อมูลที่ทำงานทั้งหมดว่าทำอะไรไปบ้าง และท่าทีความคิดเห็นต่างๆ ว่ามีความคิดเห็นเป็นอย่างไร มีผลกระทบอย่างไร และจะแก้ไขอย่างไร” นายพิชัย ระบุ
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ในการหารือได้ข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการเจรจากับสหรัฐ
เรื่องแรกคือ การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจะต้องไม่ให้ผู้ผลิตในประเทศได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภาคเกษตร และอุตสาหกรรมรายย่อย
เรื่องที่สอง อาจจะต้องรับซื้อสินค้าบางรายการเข้ามา จะมีการกำกับดูแลให้ทั่วถึง โดยยืนยันจะไม่มีสิ่งที่ไม่ควรเข้ามาในประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเข้า และส่งออกมากขึ้น
“ตอนนี้ได้คุยกันว่าจะมีมาตรการออกมารองรับช่วยเหลือหลายเรื่อง โดยจะทำการบ้านในรายละเอียดต่อไป เพราะหลักการตอนนี้มีแล้วว่ากลุ่มเกษตรจะทำอย่างไร อุตสาหกรรมรายย่อยจะทำอย่างไร กำหนดมาตรการ กว้างๆ เอาแล้วว่ามีอะไรบ้าง และจะไปลงในรายละเอียดต่อไป”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมไปยังรัฐบาลสหรัฐแล้ว โดยการทำงานต่อจากนี้จะกลับมาดูรายละเอียดอีกครั้งเป็นรายการสินค้า ซึ่งยืนยันว่าทำมาถูกทางแล้ว ส่วนจะมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ล่าสุดได้หาโอกาสคุยผ่านออนไลน์ ว่ามีอะไรเพิ่มเติม หากจะมียื่นข้อเสนอเพิ่มเติมไปอีก เชื่อว่าจะมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น และหากมีความจำเป็นก็พร้อมเดินทางไปเจรจา
“หลายเรื่องที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในตอนนี้จะพยายามไม่ทำให้เกิดการเสียเปรียบ แต่ตอนนี้เห็นว่า สหรัฐได้แบ่งสินค้าเป็น 2-3 ประเภทใหญ่ เช่น สินค้าทั่วไป สินค้าผ่านทาง สินค้านำเข้ามาประกอบ และส่งออก ซึ่งไทยสามารถดูแลได้ดีเมื่อเทียบกับบางประเทศ คาดว่าเราจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก”
อย่างไรก็ตามรัฐบาลวางเป้าหมายว่า ไม่อยากให้เสียเปรียบคู่แข่งขัน และเห็นว่า สหรัฐคงต้องการพิจารณาเกือบทุกกลุ่มสินค้าที่จะให้ความสำคัญเป็นหลัก
ส่วนกรณีที่มี นายทักษิณมาร่วมประชุมวันนี้ด้วย นายพิชัย กล่าวว่า ตนเป็นผู้เชิญ ในฐานะที่นายทักษิณรู้เรื่องเหล่านี้ดี น่าจะให้ข้อคิดเห็นได้ดี
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






