เดินหน้า 'รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย' ตั้งอนุกรรมการ ศึกษาซื้อคืน ‘สัมปทานเอกชน’

เดินหน้า 'รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย'  ตั้งอนุกรรมการ ศึกษาซื้อคืน ‘สัมปทานเอกชน’

รัฐบาลเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการฯ แต่งตั้งให้ "ลวรณ แสงสนิท" ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน ศึกษาแนวทางการซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าจากเอกชน

KEY

POINTS

  • ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่มบังคับใช้ 1 ต.ค.2568
  • มีการตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อศึกษาการดำเนินงานในระยะยาว รวมถึงการพิจารณาซื้อคืนสัมปทานเดินรถจากภาคเอกชน
  • คาดการณ์ว่านโยบายนี้อาจต้องใช้งบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐประมาณ 7-8 พันล้านบาทต่อปี

วันนี้ (8 ก.ค.68) เมื่อเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนการลงทุนตามนโยบายรถไฟฟ้าอัตราเดียวตลอดสาย ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน มีการประชุมนัดแรกที่กระทรวงการคลัง โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธาน ศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการ สคร. กรรมการและเลขานุการ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (8 ก.ค.68) มีมติเห็นชอบมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสาย ในราคาไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย คณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมนัดแรก และมีมติจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทั้งในระยะสั้น และยาว รวมถึงการซื้อคืนสัมปทานจากภาคเอกชน ซึ่งมีนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน 
 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวก่อนการประชุม ว่า การดำเนินนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐราว 7-8 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นการคาดการณ์จากจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในระยะเวลา 2 ปีแรก โดยในการประชุมครั้งนี้จะมีการหารือแนวทางการดำเนินโครงการดังกล่าวได้ในระยะยาวเพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณ อาทิ การตั้งกองทุนอุดหนุน เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครม.ได้มีมติเห็นชอบมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสาย ในราคาไม่เกิน “20 บาทตลอดสาย” ตามนโยบายของรัฐบาล ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดราคาค่าครองชีพในทุกมติ ให้กับประชาชน เช่น การปรับราคาค่าครองชีพ ค่าสาธารณูปโภค และค่าพลังงานต่างๆ


 

 

รัฐลุย 'รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย' ตั้งคณะอนุกรรมการ ศึกษาแนวทางระยะยาว-ซื้อคืนสัมปทานเอกชน ทั้งนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิค่าโดยสาร 20 บาท ภายในช่วงเดือนส.ค.2568 ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" และภายใน 1 ต.ค.2568 จะเริ่มดำเนินมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า สูงสุด 20 บาทตลอดสายตามนโยบายรัฐบาล และภายหลังจากนั้นจะมีกระบวนการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้โครงสร้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเงื่อนไขการลงทะเบียนนั้น ก็เพื่อยืนยันตัวบุคคลที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น โดยระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก  และสามารถใช้ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่เคยลงทะเบียนไว้) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้าผ่านแอป “ทางรัฐ” 

โดยบัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิโดยอัตโนมัติ เมื่อใช้งานหลังจากเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568  โดยจะครอบคลุมทั้งโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้งบนดิน และใต้ดิน ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ประกอบไปด้วย รถไฟฟ้าสายสีเขียว,สีทอง,สีเหลือง,สีชมพู,สีน้ำเงิน,สายสีม่วง,สายสีแดง และ สายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) 

ทั้งนี้ การใช้บริการรูปแบบบัตร Rabbit Card (บัตรเติมเงิน) จะใช้ได้กับสายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless (หรือบัตรเครดิต Visa/Mastercard) สามารถใช้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, ARL (ไม่รวมสีทองและสีเขียว)   โดยในอนาคตจะมีการเปิดระบบสแกน QR Code ในมือถือแทนการใช้บัตร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน

สำหรับมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายนี้จะครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 279.84 กิโลเมตร 194 สถานี สำหรับแนวทางการชดเชยรายได้ค่าโดยสารจากการดำเนินมาตรการ จะมาจากกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม หรือแหล่งเงินอื่นที่เหมาะสม 
รัฐลุย 'รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย' ตั้งคณะอนุกรรมการ ศึกษาแนวทางระยะยาว-ซื้อคืนสัมปทานเอกชน

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์