‘เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ จ่อสะดุด! อีก ‘เรือธง’ ไปไม่ถึงฝัน

“เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เรือธง ส่อล่ม พ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจรถูกเลื่อนหรือถอนออกจากการพิจารณาในสภาฯ นักลงทุนอาจชะลอแผนลงทุนมูลค่ากว่าแสนล้านบาท
KEY
POINTS
- รัฐบาลพิจารณาเลื่อนหรือถอนร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
- สาเหตุหลักมาจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย และเพื่อให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ทบทวนกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อน
- การชะลอร่างกฎหมายนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และทำให้แผนการลงทุนจากภาคเอกชนมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทต้องหยุดชะงัก
- โครงการนี้ถูกคาดหวังให้เป็นนโยบายเรือธงในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศซึ่งเมื่อกฎหมายกระทบการลงทุนจะไม่เกิด
รัฐบาลปัจจุบันที่นำโดยพรรคเพื่อไทยมีการประกาศนโยบายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 5% โดยหนึ่งในชุดนโยบายเศรษฐกิจมีการผลักดันการท่องเที่ยว โดยสร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่เป็น “Man Made destination” โดยผลักดันการลงทุน “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”
ที่ผ่านมานโยบายนี้ได้ผ่านการผลักดันจากรัฐบาลมาอย่างต่อเรื่องโดยมีการจัดทำ พ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....ออกมาเป็นร่างกฎหมายที่จะรองรับการลงทุน โดยผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2568 โดยตามไทม์ไลน์แล้วตัวร่างกฎหมายนี้จะต้องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในการประชุมสภาสมัยนี้แต่ล่าสุดมีแนวโน้มสูงที่รัฐบาลจะเลื่อน หรือถอนกฎหมายนี้ออกจากสภาฯเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองไม่เอื้ออำนวย
ซึ่งการเลื่อนกฎหมายฉบับนี้จะส่งผลต่อการลงทุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศเนื่องจากหากกฎหมายมีความไม่ชัดเจน นักลงทุนก็จะชะลอการลงทุนออกไปก่อน หรืออาจพิจารณาแหล่งลงทุนในประเทศอื่นๆที่มีความชัดเจนในการรองรับการลงทุนมากกว่า
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเสนอร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ยอมรับว่าขณะนี้รัฐบาล โดยวิปรัฐบาล และผู้แทนคณะรัฐมนตรีว่า กำลังพิจารณาการเลื่อน หรือถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ ออกมาจากการพิจารณาในสภา ซึ่งมีวาระการพิจารณาวันที่ 9 ก.ค.68 โดยคาดว่าที่ประชุมวิปรัฐบาล นำโดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสรุปผลได้ภายในวันที่ 7 ก.ค.นี้ ว่าจะเป็นมีมติถอน หรือเลื่อนออกไปอย่างไร
นายจุลพันธ์ยอมมรับว่าสาเหตุที่ต้องพิจารณาเลื่อน หรือถอนพ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ได้มาจากว่าห่วงเรื่องเสียงสนับสนุนในสภาจะไม่พอ แต่มาจาก 2 เหตุผลหลัก คือ 1.ขณะนี้รัฐบาลเพิ่งมีการปรับ ครม.ใหม่ และมีรัฐมนตรีใหม่หลายคน 14-15 ตำแหน่งที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ชุดเดิม ดังนั้น เมื่อมีการปรับ รัฐมนตรีใหม่เข้ามา จึงควรให้สิทธิทุกๆ ท่านร่วมพิจารณาและตัดสินใจกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อนให้ตกผลึกเสียก่อน
2.เหตุผลมาจากการที่ขณะนี้เกิดปัญหาในประเทศหลายมิติขึ้น ทั้งยาเสพติด ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงเกิดการชุมนุม มีผู้คัดค้านบนท้องถนน จึงต้องลดโทนความขัดแย้งของบ้านเมือง จึงมีข้อเสนอให้เลื่อนการพิจารณา หรือถอนร่างกฎหมายกลับมาที่ ครม.ก่อน ถ้าเห็นว่า มีความเหมาะสมแล้ว ก็ค่อยเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอีกครั้ง
ขั้นตอนการการถอน หรือเลื่อนร่างกฎหมายนั้น หากมีการเลื่อนวาระพิจารณา จะต้องให้มีการพิจารณา และโหวตกันในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอมติให้เลื่อนไปก่อน
กระทบแผนลงทุน 1 แสนล้าน
ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีการเผยแพร่ผลการศึกษาทางเศรษฐกิจของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยคาดว่สโครงการนี้จะดึงดูด เงินลงทุนจากภาคเอกชนเข้ามาในประเทศอย่างน้อย 100,000 ล้านบาท และอาจสูงถึง 300,000 ล้านบาทขึ้นไป คาดว่าจะช่วยเพิ่ม GDP ในช่วงก่อสร้าง 0.23% และหลังเปิดบริการ 0.2-0.8% รวมถึงสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยว 100,000-200,000 ล้านบาท และ เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 22,000 บาท
นอกจากนี้ จะมีการจ้างงานโดยตรงกว่า 9,000-10,000 ตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าสูงกว่านี้มาก หากเทียบกับ Marina Bay Sands ในสิงคโปร์เพียงแห่งเดียวที่มีพนักงาน 12,000 คน โดยเน้นการจ้างงานคนไทย การใช้วัสดุก่อสร้าง และสินค้าในประเทศ
ในด้านรายได้เข้ารัฐ โครงการนี้จะสร้างรายได้จากภาษี และค่าธรรมเนียมกว่า 12,000-40,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้เหล่านี้จะถูกนำไปสนับสนุนการศึกษา การพัฒนาเยาวชน ด้านดนตรี กีฬา เทคโนโลยี สาธารณสุข โครงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการส่งเสริม CSR และการพัฒนาชุมชนโดยรอบ เป็นต้น