ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อ จากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อในวันอังคารและเช้านี้ จากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่คลังสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ อยู่ในความสนใจของผู้ค้าในตลาด
บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดที่ระดับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในวันอังคาร(1 ก.ค.) ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต(WTI) อยู่ที่ระดับ 65 ดอลลาร์
มีรายงานว่าอิหร่านตัดขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังหลักของสหประชาชาติ ทำให้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านทวีความรุนแรงมากขึ้น และเพิ่มความคลุมเครือในการเผชิญหน้าทางการทูตกับวอชิงตัน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวว่าอิสราเอลได้ตกลงตามเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการหยุดยิง 60 วันในฉนวนกาซาแล้ว
“สงครามไม่ใช่แบบเส้นตรง และเหตุการณ์เล็กน้อยอาจกลายเป็นจุดชนวนความขัดแย้งในที่สุด” จูน โกห์ นักวิเคราะห์ตลาดน้ำมันอาวุโสจาก Sparta Commodities ในสิงคโปร์กล่าว “การหยุดยิงระหว่างอิหร่านและอิสราเอลอาจยืนอยู่ได้ไม่นาน และตลาดจะตอบสนองอย่างรวดเร็วอีกครั้งหลังจากความขัดแย้งกลับมา”
ด้านสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐอเมริการายงานว่า สำรองน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้วที่ศูนย์กลางการจัดเก็บน้ำมันคุชชิ่ง ซึ่งเป็นจุดกำหนดราคาของน้ำมันดิบ WTI แม้ว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ตาม ตามข้อมูลจากผู้ที่คุ้นเคยกับข้อมูลดังกล่าว
การลดลงที่คุชชิ่งจะเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคม หากได้รับการยืนยันจากข้อมูลอย่างเป็นทางการซึ่งจะประกาศในช่วงบ่ายวันพุธ และจะทำให้ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่ศูนย์กลางดังกล่าวลดลงสู่ระดับตามฤดูกาลต่ำสุดตั้งแต่ปี 2548
กิจกรรมการซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบลดลงนับตั้งแต่เกิดการสู้รบครั้งล่าสุดระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน โดยความผันผวนกลับมาอยู่ที่ระดับก่อนเกิดสงคราม ความกังวลน่าจะกลับมาอยู่ที่การคาดการณ์ปริมาณน้ำมันล้นตลาดในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าการประชุมโอเปกพลัส ในสุดสัปดาห์นี้จะส่งผลให้มีการเพิ่มโควตาการผลิตอีกครั้งอย่างมาก
อัปเดตราคาเช้านี้ (2 ก.ค.)
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับการส่งมอบในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 67.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 8.55 น. ตามเวลาในสิงคโปร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI สำหรับการส่งมอบในเดือนสิงหาคมแทบไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 65.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล







