พิชัย หารือ ประธาน USTR 3 ก.ค. ตั้งเป้าลดภาษีไทย-สหรัฐเหลือต่ำสุด

พิชัย หารือ ประธาน USTR 3 ก.ค. ตั้งเป้าลดภาษีไทย-สหรัฐเหลือต่ำสุด

‘ทีมไทยแลนด์' หารือภาษีสหรัฐ 'พิชัย' จับเข่าคุย 'เจมิสัน กรีเออร์’ ประธาน USTR ที่วอชิงตัน ดี ซี วันที่ 3 ก.ค.นี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย เจรจาลดภาษีให้ต่ำที่สุด

KEY

POINTS

  •  ‘ทีมไทยแลนด์' หารือภาษีสหรัฐ 'พิชัย' จับเข่าคุย 'เจมิสัน กรีเออร์’ ประธาน USTR ที่วอชิงตัน ดี ซี
  • กำหนดวันที่ 3 ก.ค.นี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย
  • เป้าหมายเจรจาลดภาษีให้ต่ำที่สุด ชูแนวทาง Win – Win ได้ประโยชน์ทั้งไทยและสหรัฐฯ เชื่อมั่นผลเจรจาเป็นบวก
  • นายกฯหวังผลเจรจาได้ผลดี แต่ไม่ตอบลดภาษีเหลือเท่าไหร่

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและให้กำลังใจ ทีมไทยแลนด์” ที่จะเดินทางไปเจรจาเรื่องของ ภาษีสหรัฐฯ ในคืนนี้ โดยขอให้ยึดหลักประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญเพื่อหาจุดสมดุลทางด้านการค้าขายระหว่างประเทศให้ได้ ในช่วงที่ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้นำคณะผู้แทนทีมไทยแลนด์ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ภายในคืนวันนี้ (30 มิถุนายน 2568) เพื่อเจรจามาตรการภาษี ไทย-สหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

สำหรับการหารือที่สำคัญ คือ การประชุมหารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ (Mr.Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative - USTR) ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่เก็บกับไทยจาก 36% ให้เหลือต่ำที่สุด โดยที่ผ่านมา ไทยได้ยื่นข้อเสนอหลายครั้ง และได้รับสัญญาณที่ดีจากฝั่งสหรัฐฯ นอกจากนี้ ทีมไทยแลนด์ยังมีกำหนดเข้าพบหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของสหรัฐฯ อีก 2-3 หน่วยงาน

รัฐบาลติดตามสถานการณ์การเจรจาและหารือกับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่องทางทางการและไม่เป็นทางการ โดยแนวทางการเจรจาได้รับการออกแบบจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและทุกภาคส่วน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนไทย ผู้ประกอบการ ผู้นำเข้า-ส่งออก ภาคเอกชน เกษตรกร และ SMEs ภายใต้แนวคิดการเจรจาแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน (win – win) ที่พิจารณาทั้งข้อกังวลของสหรัฐฯ และความจำเป็นของไทย ตามกรอบ 5 เสาหลัก ที่มุ่งสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพร่วมกัน เช่น เกษตร-อาหาร และเทคโนโลยี 

พร้อมเดินหน้าเปิดตลาด ลดภาษี ลดอุปสรรคการค้า และอาจพิจารณาเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในกลุ่มพลังงานและวัตถุดิบที่ไทยขาดแคลน เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบการและผู้บริโภคของไทย อีกทั้งไทยยังเข้มงวดกับการส่งออกสินค้าสวมสิทธิ์จากประเทศที่สาม ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยลงทุนในสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้หลายบริษัทแสดงความพร้อมและสนใจลงทุน

“นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร มอบหมายให้ทีมไทยแลนด์จัดทำกรอบการเจรจาที่ครอบคลุมและสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน และกำชับให้เร่งรัดการเจรจาให้ได้ข้อสรุปภายในระยะเวลาที่เหมาะสม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออก นายกรัฐมนตรียังตั้งเป้าให้การเจรจาครั้งนี้เป็น ก้าวสำคัญในการเปิดตลาด เพิ่มรายได้ ลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการให้มากที่สุด ” นายจิรายุ กล่าว

นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความคืบหน้า การเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ หลังจาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาเตรียมเดินทางไปสหรัฐ ว่า ในรายละเอียดได้พูดคุยในที่ประชุมหมดแล้ว ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งนายพิชัยก็เตรียมเดินทางแล้ว

ส่วนการคาดหวังการเจรจาครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รอบนี้ที่มีการเจรจาน่าจะสรุปคำตอบมาหลายหัวข้อ เพราะมีเนื้อหาและรายละเอียดที่สำคัญหลายเรื่อง และจากที่มีการเจรจามาแล้ว 1 รอบ เราก็มาดูในรายละเอียดต่อว่า สามารถปรับได้อย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ คาดหวังอัตราภาษีที่สหรัฐจัดเก็บจะอยู่ที่ระดับใดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอยังไม่บอกเป็นตัวเลข แต่ทางคณะเจรจาจะทำให้ดีที่สุดแน่นอน ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด